สมาชิกใหม่จากลัดดาแลนด์...... บรื๊อววว

อยู่ๆก็ได้สมาชิกใหม่มาเพิ่ม แบบไม่ได้ตั้งใจ และไม่เคยเลี้ยงตัวแบบนี้มาก่อน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าสมาชิกใหม่ตัวนี้นางมีบางอย่างกับเราแน่ๆ  ^^'  

ย้อนหลังไปเมื่อเกือบ 2 ปี(ย้อนไกลเลย ^^')  ที่บ้านได้มีโอกาสอุปการะหมานอกบ้านเพศผู้ 2 ตัว ด้วยความสงสาร เพราะบ้านเยื้องๆ(เป็นบ้านเช่า ถูกเช่าโดยเจ้าของกิจการตู้เกมส์เช่าไว้ให้คนงานที่เป็นช่างไม้ผลิตตู้เกมส์อยู่กัน 1 ครอบครัว ผัวเมียลูกชายเล็กๆ6-7 ขวบสองคน และลูกสาวที่เพิ่งคลอดเมื่อสามเดือนก่อนอีกคน) เค้าเอามาเลี้ยงแล้วตอนหลังเลิกเลี้ยงด้วยข้อหา 'มันไม่ตัวเล็กน่ารักอย่างที่คิด'  - -'  

คือเจ้าสองตัวนี้ถูกนำมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2-3 เดือน เป็นหมาไทยพันธุ์ทางธรรมดา ตัวนึงสีขาวเรามาตั้งชื่อตอนหลังว่า 'เต้าหู้' ส่วนอีกตัวเป็นพี่น้องกันสีขาวดำ ตั้งชื่อว่า 'แพนด้า'  สองตัวนี้เป็นหมาเฟรนด์ลี่มาก แต่ก็ซนมากเช่นกัน มันคงซนทำลายข้าวของเพราะได้ยินเสียงร้องเนื่องจากโดนตีบ่อยๆ จนตอนหลังเต้าหู้กลายเป็นหมาขาเป๋ คาดว่าโดนตีจนสะโพกหักหรือหลุด ตอนนั้นได้ยินเสียงร้องโหยหวนแต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะมันหมาคนอื่น ขืนสาระแนจะโดนด่าเอา.... เต้าหู้ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเลยกลายเป็นหมาขาเป๋ไปโดยปริยาย ผ่านไปสัก 2-3 เดือน เค้าก็เริ่มไม่ให้มันเข้าบ้าน ไม่ให้ข้าวให้น้ำ ปล่อยให้ผอมโซ แต่มันก็ไม่ไปไหนนอนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน เห็นแล้วสงสารเลยตักบาตรกันทุกวันแต่ยังไม่กล้าเอาเข้าบ้านตัวเองเพราะไม่แน่ใจว่าเค้ายังเลี้ยงอยู่หรือเปล่า....แต่ตอนหลังเลยเดินไปถามให้เคลียร์ว่าตกลงคุณไม่เลี้ยงแล้วหรืออย่างไร เพราะฝนตกหมาเปียกปอนเห่าหอนกันน่าสงสาร  
นางตอบว่านางไม่เลี้ยงแล้วมันซนกันมาก แล้วมันก็ไม่ตัวเล็กน่ารักเหมือนหมาพุดเดิ้ลที่อยากได้ - -'   
... นางเล่าว่าอยากได้หมาตัวเล็กน่ารักแต่ไม่มีเงินซื้อไปบ่นให้เพื่อนคนงานฟัง เพื่อนมีหมาแถวบ้านคลอดลูกเห็นตัวเล็กๆเลยเอามาให้เลี้ยงคิดว่าน่าจะเหมือนกัน....อืมมมม....
คือลูกหมาอ่ะตัวมันก็เล็กน่ารักทั้งนั้นไม่ว่าพันธุ์แท้เพันธุ์ทาง พอโตมันจะเริ่มเห็นไงว่าไม่ใช่ แล้วมันความผิดหมามั้ยอิหอยยย... - -'  
เราก็คิดหนักสงสารก็สงสาร เคยให้มาหลบฝนในรั้วบ้าน คืนแรกลากรองเท้าแม่กะน้องสาวไปกัดขาด 3 คู่.... หลุนกะช่ายเป็นหมาที่ไม่กัดรองเท้าคนในบ้านเลยไม่ทันระวัง  คืนสองลากทุกสิ่งทุกอย่างที่โรงจอดรถมากัดเล่น - -'  ไม่ไหวร่ะนะ... อีกอย่างเป็นหมาตัวผู้ซึ่งเรามีหมาตัวเมียในบ้านแล้ว 2 ตัวตรองดูแล้วไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง เลยตัดสินใจรับเลี้ยงนอกบ้าน สร้างบ้านไม้ขนาดเล็กๆให้หลบฝน 2 หลังติดรั้วบ้านด้านหน้า วางน้ำไว้ให้ และอาหารเช้า-เย็น ฉีดวัคซีนครบ ตั้งชื่อให้เรียบร้อย
....เต้าหู้-แพนด้าเป็นหมาเฟรนด์ลี่น่ารักมาก ฉลาดสื่อสารกับคน เฝ้าบ้านเก่ง แถมชอบโดดน้ำในบ่อใกล้ๆบ้านเล่น ใครผ่านไปผ่านมาก็ทึ่งหมาสองตัวนี้โดดน้ำกันตูมๆ เหมือนเด็ก คือมันโดดลงไปแล้วไต่ขึ้นมาโดดใหม่ แล้วก็วิ่งไล่กันทั่วสวนแล้วกลับมาโดดใหม่กันอย่างเริงร่า แถวบ้านมีที่ดินว่างเปล่าเยอะเลยกลายเป้นสนามเด็กเล่นให้เจ้าสองตัวนี้สบายๆ วิ่งเล่นกันร่าเริง ตอนเช้ามีกระดูกไก่ย่างให้กินทุกวัน กินเสร็จไปวิ่งเล่นโดดน้ำ ตอนเย็นมานั่งรอเพ็ดดีกรีคลุกกะข้าวและเนื้อไก่  บางวันนางก็ไไปร่วมโต๊ะจีนกะหมากลางซอยเพราะมีคนเอาข้าวคลุกกระดูกมาแจก ตอนนี้เต้าหู้กะแพนด้าเติบโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว หมานอกหมาในอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข.... แต่สมาชิกใหม่ที่จะเล่านี้ไม่ใช่เจ้าสองตัวนี้...แต่เพราะมันสองตัวนี่แหละที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด  
....สักสองสามเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นละแวกบ้าน คือพบศพไก่นอนตายอยู่ที่ถนนซอย เป็นลูกไก่ที่โตแล้วขนดำๆ  ขายาวๆ และเริ่มเจอถี่ขึ้น 
...เริ่มสงสัยกันว่า เฮ้ย! มันเกิดอะไรขึ้น?  ไก่ใคร?  มาจากไหน?  ซอยเราไม่มีใครเลี้ยงไก่ 
...โหมดผีเริ่มทำงาน...หรือซอยเรามีปอบ?  ลากไก่จากที่อื่นมากิน!!  เย้ยยยย!!  มันน่าสะพรึงตรงที่หลังจากนั้นเราเจอศพไก่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกก็เจอไกลจากบ้านหน่อย หลังๆทำไมมันใกล้บ้านเราเข้ามาเรื่อยๆแว๊ ....ตัวล่าสุดคือนอนคอหักอยู่หน้าบ้านเบยยย T_T 
....... จนวันหนึ่งก็รู้ตัวการ บังเอิญเปิดประตูจะเอาขยะไปทิ้ง เจอใอ้แพนด้าคาบไก่จากไหนมาไม่รู้ วิ่งหูรี่ดีใจเข้ามาหา ประหนึ่งจะโชว์ผลงาน นางหยุดที่ระยะ 1 เมตรคาบโยน คาบโยนให้ดูเป็นขวัญตา อิฉันกรี๊ดแตก นางตกใจวิ่งหนีไปยืนกระดิกหางตาแป๋วไกลๆ ทิ้งศพไก่คอหักไว้อย่างนั้น  - - ' ... ซอยบ้านก็ไม่มีใครเลี้ยงไก่แล้วมันไปเอามาจากไหนฟร่ะเนี่ย... คาใจกันมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเห็นตอนไก่เป็นศพแล้วทุกทีได้แต่เก็บใส่ถุงขยะไปทิ้ง ....
จนเมื่อสักเกือบ 2 อาทิตย์ที่แล้วนั่งทำงานอยู่ก็ได้ยินเสียงไก่ร้องเสียงดังมาก สองคนกะอรุษรีบวิ่งกันออกมาเห็นคาตาว่าแพนด้าคาบไก่วิ่งเข้าสวนฝั่งตรงข้ามบ้านไป พอวิ่งตามไปเห็นมันกำลังจัดแจงนอนหมอบ ขาหน้าจับไก่ไว้กำลังจะฉีกขย้ำ เราเลยตวาดเสียงดัง แพนด้าตกใจทิ้งไก่แล้ววิ่งหนีไปยืนดูไกลๆ  มองไปที่ไก่เห็นนอนแน่นิ่งไปแล้ว...ตอนแรกคิดว่าคงไม่ทันแล้วล่ะมันคงตายแล้ว แต่พอเดินไปดูใกล้ๆ จากไก่ที่นอนแน่นิ่งอยู่ ทันใดนั้นมันก็ลุกพรวดขึ้นมาหยั่งกะไก่ซอมบี้วิ่งเร็วปรู๊ดดดหายเข้าหลังสวน ....หลังจากหายเข่าอ่อนจากไก่ซอมบี้เลยเดินตามหากันว่ามันวิ่งไปไหน มันน่าจะบาดเจ็บกลัวมันไปตาย.... สวนก็รกกลัวงูก็กลัว แต่ไม่รู้จะทำยังไงเลยเข้าไปตามหาจนไปเจอว่านอนหายใจรวยรินอยู่โคนต้นกล้วยท้ายสวน ตอนที่เราตวาดหมาคงจะเสียงดังมาก เจ้าของเดิมของเต้าหู้กะแพนด้าเลยวิ่งออกมาดูด้วย ก็เลยได้คุยปรึกษากันว่าทำไงดีเราไม่มีประสบการณ์เลี้ยงไก่เลย มันเป็นไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้ว สภาพที่เห็นคือมีแผลเหวอะที่หลัง คอ และเลือดออกปากออกจมูก .....จะพาไปโรงพยาบาลสัตว์หมอมันจะรักษาให้มั้ย คิดกันไปต่างๆนาๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ตายแน่ๆ  นางเลยบอกว่าเดี๋ยวนางเอาไปให้สามีนางรักษา สองคนนี้เป็นคนต่างจังหวัดแถบภาคอีสาน(ไม่เคยถามว่าจังหวัดอะไรฟังสำเนียงเอาว่าอีสานแต้ๆ ) เค้าเล่าว่าเคยเลี้ยงไก่ แฟนเค้าเคยรักษาทายาให้ไก่ที่เลี้ยงไว้เป็นประจำ นางว่าน่าจะรักษาได้.....ค่ำแล้วตอนนั้นไม่มีทางเลือกก็เลยให้เค้าอุ้มไป ไก่ก็ว่าง่ายไม่จิกไม่หนียอมให้อุ้มแต่โดยดี เลือดหยดจากปากตลอด เห็นแล้วกังวลมากว่ามันจะรอดมั้ย....

วันแรกๆเราก็ไม่กล้าไปเซ้าซี้ถามเค้า คิดว่าถ้ามันตายหรือมีอะไรเค้าคงเดินมาบอกเพราะบอกเค้าไว้ว่าเราจะช่วยค่ายาเอง  ผ่านไปสองสามวันก็ยังเงียบ พยายามจะหาโอกาสเจอเพื่อจะถามเค้าว่าไก่เป็นไงบ้าง แต่ประหลาดที่ไม่เคยเจอเค้าอีกเลย! 
...ทั้งที่ปกติ ทุกช้า ทุกเย็น นางจะเข็นลูกสาวแบเบาะออกมาเดินเล่นหน้าบ้านเป็นประจำด้วยรถเข็นที่สามีเค้าต่อขึ้นมาเอง เป็นแผ่นไม้ใส่ล้อเล็กๆ 4 ล้อเตี้ยๆ  มีที่เข็นสูงขึ้นไป ลักษณะคล้ายรถเข็นผักในตลาด แต่บนแผ่นไม้มี car seat เด็กสภาพเก่าๆ คาดว่าน่าจะไปเก็บมาจากที่เค้าทิ้งแล้วหรือใครให้มาอีกที ยึดน๊อตติดอยู่บนแผ่นไม้   ทุกเย็นนางจะเอาลูกสาวอายุไม่กี่เดือนนั่งในรถ เอาร่มผูกติดกันแดดไว้แล้วเข็นออกมาเดินเล่นรับลม แลดูน่าเอ็นดูสำหรับเรา เค้ามีแค่นี้แต่ก็รู้จักประยุกต์ใช้มันก็ดีนะ 
... ส่วนลูกชายสองคนก็จะมาเล่นเตะบอลพลาสติกหน้าบ้านแทบทุกวัน แต่ตอนหลังนี่เราไม่เห็นใครเลย รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ...แค่คิดว่าสงสัยไก่จะไม่รอดแล้วล่ะ ไม่งั้นเค้าน่าจะมาบอกอะไรกันบ้าง....
จนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา คุณป้าขาเม้าส์บ้านปากซอยออกมายืนคุยกัน พอดีอรุษออกไปทิ้งขยะแกเลยถามว่า 

"หนูๆ รู้มั้ยว่าบ้านนั้นหน่ะเค้าย้ายไปเมื่อไหร่" 
ตาอรุษงงเป็นไก่ตาแตก "ห๊ะ! อะไรนะครับใครย้ายครับคุณป้า..."
ป้าแกเลยเฉลยว่าบ้านเช่านั้นหน่ะเค้าย้ายไปแล้วนะ ไปเงียบๆไม่มีใครรู้เลย จนมาผิดสังเกตุว่าคนเมียเค้าไม่เข็นลูกมาเดินเหมือนเก่าเกือบอาทิตย์แล้วถึงได้รู้ 
...อรุษก็ถึงบางอ้อว่ามีอยู่คืนหนึ่งได้ยินเสียงรถเข้ามากลางคืนแล้วก็เหมือนเค้าขนของกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะบ้านนี้ชอบมีรถเข้ามาขนตู้เกมส์ที่ทำเสร็จแล้วทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นประจำ ก็ยังคุยกันว่าสงสัยไก่มันคงจะตายไปตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ ทิ้งเรื่องไก่ไปหันมาวิเคราะห์กันว่าทำไมบ้านนี้ถึงแอบย่องย้ายไปตอนกลางคืน  หนีหนี้หรืออย่างไร(เม้าส์เค้านั่นเอง..)
 

จนมาเมื่อกลางวันนี้ขณะกำลังเก็บกวาดบ้านก็ได้ยินเสียงไก่ร้องเสียงดังมากกกกกกก ดังแบบเหมือนเปิดลำโพง ร้องไม่หยุดเลย ร้องกะต๊ากกกกยาวโหยหวนน่ากลัวมากจนเราไม่มั่นใจว่านี่มันเสียงไก่จริงๆ หรือใครเปิดเทปวะ... อรุษอยุ่ในห้องน้ำ เรารีบวิ่งออกไปถือไม้ไปหนึ่งอันเพื่อกำหราบหมา คิดว่าใอ้แพนด้าไปคาบไก่มากัดอีกแล้วแน่ๆ ปรากฎว่า หาทั่วสวนแล้วก็ไม่เจอไก่ แต่เจอเจ้าเต้าหู้ท่าทางมีพิรุทอยู่ริมรั้วสังกะสีบ้านเช่านี้(บ้านเช่าติดกะสวน)   ซึ่งตรงนั้นมันมีรูอยู่นิดนึง เห็นเต้าหู้พยายามจะมุดหัวเข้าไป เลยไล่ออกไป คิดว่าไก่น่าจะวิ่งหนีรอดรูสังกะสีเข้าไปในบ้านเช่านั้น  จะปีนรั้วสังกะสีก็ปีนไม่ได้ เลยอ้อมไปหน้าบ้าน ไปตะกายประตูรั้วเหล็กเขย่งส่องดูก็ไม่เห็นไก่ อรุษออกจากห้องน้ำวิ่งตามมาดูก็เลยให้นางปีนรั้วขึ้นไปดูชัดๆ อีกทีนางสูงกว่าเราน่าจะเห็นได้ดีกว่า.... ปรากฎว่าก็เห็นจริงๆ ไก่โผล่หัวมาจากบ่อที่มีน้ำขังหน้าบ้านแล้วมันก็ไม่ยอมขึ้นมาเหมือนขึ้นไม่ได้หรือไงนี่แหละ โผล่มาแต่หัว...
 

งานเข้าล่ะทีนี้ บ้านไม่มีคนอยู่ล๊อคตายไว้จะเข้าไปยังไง....
หลังจากชี้เป้าและปีนดูหน้าดูตากันพักใหญ่ก็จำได้ว่าเป็นเจ้าไก่ตัวนั้นแหละที่โดนแพนด้ากัดเหวอะ ถึงไก่มันจะหน้าเหมือนๆกันแต่อิฉันก็จำขนแหว่งๆที่คอมันได้ 
...แสดงว่าเค้ารักษามันหายแล้วแต่เค้าย้ายบ้านไปไม่เอามันไปด้วย 
...แสดงว่าตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามันอยู่ในบ้านนี้ตัวเดียวไม่มีใครเลี้ยงและไม่มีใครให้อาหาร....อเมซิ่งมั่กๆ!  
เราสองคนวนเวียหาทางเข้าอยู่นาน จนอรุษถอดใจ รั้วเหล็กด้านหน้าปีนไม่ได้เลยเพราะมันสูงมากเกือบ 3 เมตรมีเหล็กแหลมๆกันขโมยด้านบนอีก อรุษบอกว่าตัดใจเหอะเข้าไม่ได้หรอก แต่เราเป็นห่วงตัดใจไม่ได้ สงสารมัน มันอุตส่าห์รอดตายมาได้ขนาดนี้....
..สามีเดินกลับเข้าบ้านไปแล้วแต่อิฉันไม่ยอมแพ้ เดินกลับเข้าสวนสำรวจรั้วสังกะสีด้านข้างว่ามีอันไหนผุๆพอจะดึงออกแล้วลอดตัวเข้าไปได้บ้างมั้ย สมัยเด็กๆเคยแอบทำแบบนี้บ่อยๆ ...
....ปรากฎว่ามีจริง คงเพราะฝนตกด้วยทำให้ตะปูที่ตอกสังกะสีขึ้นสนิม และไม้ยึดมันก็ยุ่ย ๆอ่อนตัว พอออกแรงดึงก็หลุด สามารถง้างเปิดพอให้มุดเข้าไปได้(โดนเหล็กขึ้นสนิมขูดเข่าได้แผลเลือดซิบๆเป็นของแถมจากความบ้าบิ่นครั้งนี้...- -') 
สภาพบ้านรกร้างสกปรก บรรยากาศคล้ายลัดดาแลนด์ ฉากที่แนนปีนรั้วบ้านข้างๆ เพื่อเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ปลิวข้ามมา แล้วเจอผีครอบครัวหลอกแบบนอนสต้อป ผุดแว๊บขึ้นมาในหัว ...

...เวลาดูหนังผีสยองขวัญแล้วเคยสงสัยมากๆว่า เวลาพระเอกนางเอกเดินเข้าไปในสถานที่ๆไม่น่าไว้วางใจถ้าเป็นเราคงวิ่งออกมาแล้วไม่เดินต่อหรอก แต่ตัวละครจะเดินเข้าไปทุกทีและเกิดเรื่องทุกทีสิน่า

...ตอนดูก็จะนึกทุกครั้งว่า ทำไมโง่อย่างงี้... เผือกแระเมิงงง... รนหาที่แท้ๆ ......
เพิ่งเข้าใจฟีลก็ตอนนี้เอง พอเป็นกับตัวใจนึงมันก็กลัว แต่ใจนึงมันก็คิดว่า....จะบ้าหราาา ผีเผอมีที่ไหน เพ้อล่ะเมิงงงง....
แข๊งใจลุยต่อ หมายมั่นไว้ว่ากุอุตส่าห์ลอดรั้วเข้ามาแล้วยังไงก็ต้องออกไปพร้อมไก่ให้จงได้!......
   แต่ไม่ลืมกันเหนียวหันไปตะโกนเรียกอรุษมาเป็นแบ๊คอัพ ...เค้าจะได้รู้ว่าอิฉันสาระแน มุดรั้วบ้านคนอื่นเข้ามาแล้วนะถ้าโดนลูกปืนหรือผีหลอกจะได้ตามมาเก็บศพถูก.....

เออ..นางอยู่ไหนวะสงสัยกลับบ้านไปเข้าห้องน้ำต่อ....
 

เราเริ่มเดินสำรวจรอบบ้านต่อเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่จริงๆ มันคงอิหลักอิเหลื่อพิก๊ลถ้าเจ้าของบ้านเค้าเปิดประตูออกมาเห็นเรากำลังเดินท่อมๆอยู่ในบริเวณบ้านเค้า....

....บ้านเก่ามากครึ่งตึกครึ่งไม้สภาพทรุดโทรมน่าจะอายุอานามเกิน 20 ปีแล้ว  บ้านหลังนี้แต่เดิมก็เก่ามากแล้วตั้งแต่ตอนที่บ้านเรายังไม่สร้างด้วยซ้ำ เจ้าของพยายามจะประกาศขายแต่ขายไม่ได้เลยให้เช่า เป็นบ้านขนาด 100 ตรว. มีบริเวณและมีโรงรถด้านหน้า แต่สภาพโดยรอบมันทรุดโทรมและสกปรกมาก ๆ มีขยะทิ้งอยู่ทั่วไป มีซากตู้เกมส์เก่าๆอัดแน่นเต็มที่จอดรถหน้าบ้าน มีเครื่องมือช่างไม้วางทิ้งไว้ 
นึกสงสัยว่าเอ๊ะ! ทำไมเค้าย้ายไปแล้วไม่เอาเครื่องมือไปด้วยนะแปลกจริง.... 
ตู้เกมส์บางอันก็ยังสภาพดีอยู่  เศษไม้ชิ้นใหญ่ๆก็มีเยอะน่าจะมีราคาค่างวดให้เสียดายบ้างไม่น่าจะทิ้งไว้....
...เดินต่อไปประชิดประตูหน้าบ้าน พยายามจะมองลอดเข้าไปในตัวบ้านเนื่องจากประตูหน้าบ้านเป็นกระจกบานใหญ่ มองทะลุได้ มีข้าวของวางทิ้งไว้ระเกะระกะ โชฟา พรมเก่าๆ สายไฟ .....แล้วพลันสายตาก็ไปปะทะกับรถเข็นเด็กที่มุมหนึ่งของห้อง! 
...มันเป็นรถเข็นเด็กคันที่เค้าใช้เข็นลูกออกมาเดินเล่นทุกวันนั่นแหละ ...ทำไมเค้าไม่เอาไปด้วยวะ!?!  
ความคิดผุดในหัว.... ระ ระ ระ หรือว่า.....พวกเค้ายังอยู่ที่นี่ ไม่ได้ย้ายไปไหนกันอย่างที่เราเข้าใจกัน แต่นอนตายทั้งครอบครัวอยู่ในบ้าน!!! 
...กรี๊ดดดดด มือเท้าอ่อน ใจเต้นระรัว รีบเบือนหน้าหนีไม่มองเข้าไปในบ้านอีก....ฉากอีมะขิ่นเดินวนเวียนอยู่ในบ้านตอนที่แนนกะเพื่อนๆปีนเข้าไปท้าพิสูจน์ผี ลอยละล่องอยู่ในหัว ถึงกะมโนไปว่าเห็นเท้าของใครคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืดภายในบ้านแบบสโลโมชั่น....อ๊ากกกกกกกก....

หยู๊ดดดดดดดดด ตั้งสติ!!....ตะโกนในใจบอกตัวเองให้หยุดมโนบัดเดี๋ยวนี้ .....รีบเปลี่ยนโหมดด้วยการตะโกนเรียกอรุษอีกรอบ นึกด่าในใจเมื่อไหร่มันจะขี้เสร็จวะ ขี้จะขึ้นสมองเมียอยู่แล้ววว.....เสียงนางตะโกนจากในบ้านมาแว่วๆว่า เดี๋ยวๆ  ........

เรารีบเดินออกห่างจากตัวบ้านมาด้านที่ว่างหน้าบ้าน เว้นพื้นที่ไว้หน่อยเผื่อมีอะไรโผล่ออกมาจากในบ้านเราจะได้ไม่ใกล้ชิดกันจนเกินงามนัก พอให้อิฉันได้มีพื้นที่สำหรับชักแหง่กๆ น้ำลายฟูมปากบ้างไรบ้าง.... 

....ได้ยินเสียงน้ำในบ่อดังจ๋อมแจ๋มหันไปดูเจอเจ้าไก่ตัวนั้น สภาพเปียกปอน เนื้อเริ่มเปื่อยๆ แผลที่หลังไม่มีเลือดแล้วดูปิดสนิทแล้วด้วย แต่มันแช่อยู่ในน้ำครึ่งตัวและไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นมาไม่รู้ว่าแช่น้ำอยู่นานแค่ไหนแล้วเมื่อคืนฝนก็ตกหนักด้วย... เดินเข้าไปใกล้ๆก็ไม่หนี ลักษณะเหมือนเหนื่อยอ่อนหมดแรงอยู่ในบ่อ ขอบบ่อเป็นปูนสูงพอประมาณและมีปลานิลอยู่ในบ่อด้วยเท่าที่เห็น 1 ตัวถ้วนขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย โผล่ขึ้นมาหายใจเป็นระยะๆ... ดูแล้วน้ำน่าจะลึกพอควรสังเกตุจากการดำลงน้ำของปลา ไก่ตัวนี้คงจะเหยียบอยู่บนท่อนไม้อะไรสักอย่างใต้น้ำในจุดที่ตื้นที่สุด จะก้มไปอุ้มขึ้นมาก็กลัวมันจะจิกเอา ทำไงดีแว้....
....นังอรุษเข้ามาพอดี บ่นอุปว่าทำไมเข้าบ้านคนอื่นมาคนเดียวแบบนี้ เกิดไรขึ้นจะทำยังไง จะรอกันหน่อยก็ไม่ได้ บลาๆ ....... 
...คิดกันอยู่สักพักว่าจะเอามันขึ้นมายังไงดี เลยตัดสินใจไปคุ้ยหาเศษไม้ที่เค้าทิ้งไว้แผ่นยาวหน่อยมาพาดเป็นสะพานให้มันเดินขึ้นมาเอง ทำยังไงก็ไม่ขึ้นจนตอนหลังต้องไล่ต้อนจากอีกด้านเพื่อให้มันหนีไปทางแผ่นไม้ที่พาดไว้จึงได้ผล 
นางค่อยๆไต่ขึ้นแผ่นไม้อย่างเชื่องช้า ราวกับกำลังจะหมดแรงลุ้นกันทุกก้าวย่างกว่าจะขึ้นมาจนสุด ขึ้นมาได้นางก็ไปหลบมุมยืนตัวสั่น ให้อรุษวิ่งไปเอาข้าวสารที่บ้านมากำมือนึงมาโปรยให้ปรากฎว่านางจิกกินทันที ท่าทางหิวมากๆ ก้มหน้าก้มตากินๆๆๆๆ รออยู่สักพักจนนางเริ่มกินช้าลงเลยตัดสินใจค่อยๆเอื้อมมือไปรวบตัว นางก็ยินยอมแต่โดยดีไม่จิกไม่ดิ้น ท่าทางหมดแรงมากๆ  
...เข้าบ้านมาได้ก็รีบไปเอากรงสนามของหลุนกะช่ายมากาง เอาไก่วางให้โดนแดด ทำไงต่อวะเนี่ย...ยืนดูอยู่สักพัก ไก่ตัวสั่นมากท่าทางคงจะหนาวมากขนเปียก เอาข้าวสารโปรยไปอีกนางก็กินๆสักพักก็หยุดยืนตัวสั่นต่อ ....วิ่งไปหาเสื้อเก่าๆมาได้ตัวนึง เอานางออกมาจากกรงแล้วเอาผ้าค่อยๆซับขนให้ นางยินยอมอย่างว่าง่าย ยืนนิ่งให้ซับขนเหมือนรู้งาน... เช็ดจนผ้าเปียกไปหนึ่งผืน วิ่งไปเอาผืนใหม่มาอีก เช็ดๆๆๆจนขนเริ่มแห้งขึ้น สำรวจแผลของนางก็เห็นว่าไม่อยู่ในลักษณะที่น่าเป็นห่วง ปล่อยนางยืนอาบแดดไปก่อน หาถ้วยใส่น้ำ ใส่ข้าวสารมาวางไว้ให้ แล้ววิ่งมาเปิดคอมฯ ถามอากู๋เรื่องไก่เปียก ไก่ถูกหมากัดทำยังไงดี... ไก่เปียกไม่มีข้อมูล ไก่เปียกก็เช็ดสิ!....คาดว่าคำถามปัญญาอ่อนเช่นนี้คงไม่มีใครถาม อากู๋เลยไม่มีข้อมูล 
ส่วนหมากัดไก่ เค้าบอกว่าใส่เบตาดีนที่แผล กะให้กรอกยาแก้ปวด แก้อักเสบของคนนี่แหละ... แต่ไม่ยักกะบอกโด๊ซแฮะ!....กรอกเยอะมันจะตายคามือมั้ย แล้วกรอกยังไงวะกุไม่เป๊นนนน ....เครียดเลยเอาไงดีวะ...... 
วนเวียนหาอยู่สักพัก ได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บข้างนอก เลยเดินไปดูริมหน้าต่าง ปรากฎว่าไก่เริ่มเดินปร๋อ คุ้ยเขี่ยจิกหาอาหาร เดินไปเดินมาราวกะแข๊งแรงดีแล้วก็เลยหยุดหาข้อมูล ท่าทางมันคงไม่เป็นไรแล้วล่ะ .....
คราวนี้คงต้องมาคิดว่าจะเลี้ยงยังไง เกิดมาไม่เคยเลี้ยงไก่.....หลังจากต่อกรงง่อยๆ ด้วยอุปกรณ์เท่าที่พอหาได้ในบ้านเพื่อกันไม่ให้หลุนกะช่ายเข้ามาจ๊ะเอ๋ไก่ได้ เอาแผ่นพลาสติกฟิวเจ้อบอร์ดมาทำหลังคากันฝนให้นางด้วย เสร็จพอดีฝนเทลงมาเลย  คืนนี้ให้นางอยู่ในนี้ไปพลางๆ ก่อน  พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน....
....อ้อลืมไป ตั้งชื่อให้นางแล้ว เนื่องจากนางเป็นไก่ die hard มากๆ และนางเป็นตัวผู้ เลยตั้งชื่อว่า 'พี่บรู๊ซ' .....
...ตอนนี้พี่บรู๊ซได้เป็นสมาชิกใหม่ในบ้านเรา อย่างน้อยก็ช่วงนึงจนกว่านางจะแข๊งแรงดี ค่อยพิจารณาหาบ้านที่เหมาะสมให้นางต่อ ปัญหาตอนนี้คือนางขี้เลอะเทอะมาก คือขี้หยดทุกสามก้าว คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นวาระด่วนที่ต้องเข้าที่ประชุมประจำบ้านเพื่อหาทางเจรจาประนีประนอมกะพี่บรู๊ซโดยเร็วที่สุด ...





 พี่บรู๊ซกำลังยืนอาบแดดหลังจากเช็ดตัวเสร็จ


  
ที่บ้านมีแต่ข้าวสารเลยเอามาให้กินไปก่อน นางจิกกินใหญ่เลยท่าทางหิวมาก

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม