Daily me : 28 August 2014

เป็นสัปดาห์ที่ยังไม่ได้ลงมือทำงานเลยจนล่วงเข้าปลายสัปดาห์แล้ว - -'

วันจันทร์  : ไปสำเพ็ง  ได้ผ้ามา 2-3 ผืนกะลูกไม้ถุงเล็กๆและของใช้ในงานผ้าจิปาถะอีกนิดหน่อย...นั่งเช็คยอดเงินที่จ่ายไปกับของที่ได้มาแล้วปาดเหงื่อ... = ='

วันอังคาร : เช็คออเดอร์ แพ๊คสินค้าและไปส่งไปรษณีย์ ตอนบ่ายไปดูเครื่องมือช่างไม้แถวนนทบุรี จะมาทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ไม่ได้เรื่องอะไรเพราะร้านเค้าไม่แยกขายเฉพาะส่วนที่เราอยากได้สรุปว่าต้องหาร้านที่แยกขายให้เจอ ไม่งั้นต้องจ่ายแพงโดยไม่ได้ใช้  หัวค่ำพักผ่อนสมองด้วยการไปดูหนังผี บรื๊ออออ!  

วันพุธ : ไปดูเครื่องมือช่างแถวสุขสวัสดิ์ ขับรถไกลหน่อยแต่ก็ได้อย่างที่อยากได้ อืมมม... คราวนี้จะได้เริ่มลงมือทำงานไม้เสียที  

วันนี้ (พฤหัส) : พาซันช่ายไปรอคิวหาหมอแต่เช้า กลับมาพร้อมเรื่องปวดหัวอีกหนึ่งกระบุง ^^'  กลับมาก็บ่ายกว่าแล้วส่งหมาเข้าบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปหาข้าวกลางวันกิน....อิ่มท้องแล้วจึงเริ่มงานด้วยการเคลียร์พื้นที่ นั่งเก็บผ้าที่รื้อๆออกมา เก็บโต๊ะเก็บจักรให้พร้อมสำหรับเริ่มงานใหม่...ถือคติที่ทำงานรกหัวมักไม่แล่น (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ... :P    ) ตั้งใจว่าเย็นนี้จะเริ่มบิ้วท์เรื่องงานหาแรงบันดาลใจเตรียมๆ ไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้สานต่อได้เลย หวังว่าจะไม่มีธุระอื่นมาแทรกอีกนะ ^^' 

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีเครียดบ้างเพราะดูจากธุระที่ต้องสะสางแล้วคงไม่ได้ลงมือทำงานเลยจนเกือบหมดอาทิตย์ ...ต้องคอยเตือนตัวเองเวลาที่เผลอใจเครียดว่า "ธุระอื่น" ที่ว่านี้ก็ควรนับว่าเป็นงานเหมือนกันไม่ใช่ว่าเราปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆซะที่ไหน ....
...มันคงไม่ยุติธรรมกับตัวเองนักหากจะนับเอาแค่งานที่ทำเงินได้ว่าเป็นการใช้เวลาที่มีประโยชน์  เพราะในความเป็นจริง ชีวิตเรามีด้านอื่นด้วย มีสิ่งต่างๆในชีวิตที่แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับงานทำเงินแต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องจัดการเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำหมา ซักผ้า กวาดถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ตัดต้นไม้ ทิ้งขยะ ล้างจาน จ่ายบิลต่างๆและจิปาถะอื่นๆอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งการเล่นกับหมาก็ไม่ใช่ว่าจะไร้สาระอย่างที่คิด....เพราะนี่มันคือองค์ประกอบของชีวิตเราที่ปฏิเสธไม่ได้ ปล่อยปละละเลยก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นบาล๊านซ์มันจะไม่มี กลายเป็นชีวิตที่เอียงกระเท่เร่ เพราะไปให้น้ำหนักกับด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว...ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแต่หาความสุขในบ้านไม่ได้แล้วจะทำไปเพื่ออะไร? รถหรือเรือที่ไม่มีบาล๊านซ์คงยากที่จะขับไปให้ถึงจุดหมายได้ ชีิวิตที่ไม่มีบาล๊านซ์ก็คงไม่ต่างกัน...

...เคยคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าเรารวยกว่านี้ เรื่องปัดกวาดเช็ดถูงานบ้านงานช่องก็จ้างคนมาทำแทน เราก็จะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานที่ทำได้เต็มที่ ไม่ต้องทำค้างๆแล้วต้องวิ่งไปทำอย่างอื่นมือระวิงเหมือนตอนนี้  
...การมีเงินเหลือกินเหลือใช้ก็จะทำให้เราหมดห่วงเรื่องรายได้ที่ต้องหามาให้พอใช้ในแต่ละเดือน ไม่ต้องเร่งงานให้เสร็จจะได้ไปส่งเค้าเพื่อให้ได้เงินจ่ายบิลต่างๆให้ทันเวลา...หากไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและเงินเราก็จะมีเวลามากเท่าที่ต้องการเพื่อสร้างสรรค์ให้งานแต่ละชิ้นออกมาอย่างมีคุณภาพ ปราณีตและดีที่สุด 
คิดแล้วก็เกิดคำถามว่า จะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่มีชีวิตเพอร์เฟ็คพร้อมพรั่งแบบนั้น?....ทุกคนก็มีแต่ได้อย่างหนึ่ง ไม่ได้อย่างหนึ่งเสมอไม่ใช่หรือ?  เต็มตรงนั้นก็ไปพร่องทางอื่นกันแทบจะทุกคน...ที่จะเกิดมาเพียบพร้อมในทุกๆด้านก็อาจจะมี แต่เชื่อว่าในใจลึกๆแล้วคนๆนั้นก็ยังมีบางอย่างที่ถวิลหาอยากได้แล้วไม่ได้อยู่บ้างเหมือนกัน...

ฉันจึงคิดว่าชีวิตมันคงไม่ได้สำคัญที่ว่าเรามีมากมีน้อย หรือว่าเราไม่มีอย่างคนอื่นเขา... แต่มันสำคัญที่ว่าเราได้พยายามอย่างดีที่สุดกับสิ่งที่เรามีแล้วหรือยัง? 
....................................





ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม