It's a beginning! Hooorayyyy ^_^ /

เริ่มทำงานวันแรกของปี หลังจากวันก่อนเก็บกวาดโต๊ะทำงานไปนิดหน่อย ให้เข้าที่เข้าทางพร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ 
หลังจากซักผ้าสองรอบ เก็บกวาดบ้านนิดหน่อย นั่งทำบัญชีขายของเดือนธันวาคมเสร็จ ทานข้าวกลางวันเรียบร้อยแล้วก็มานั่งทบทวนว่างานวันนี้ต้องทำไรบ้าง ....
...นึกไม่ออกแฮ่!  
เดี๋ยวนี้การนึกอะไรไม่ออกกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อก่อนจะ freak out พอสมควรเวลานึกอะไรไม่ออก กลัวเป็นอัลไซเมอร์ แต่เดี๋ยวนี้ชิน....สมองใช้งานก็ต้องมีวันเสื่อมล่ะนะ(ปลงแระ ^^') .... จำไม่ได้ก็จดจะ freak out ทำมายยย...

พลิกๆดูแบบชุดจากหนังสือสักพัก หยิบ HaHa ตัวที่พี่เมย์โมฯหน้าใหม่มาจับๆเล่น อืมมมมม... อยากตัดกุงเกงให้ใส่... เลือกผ้าได้แล้วก็ลงมือเย็บ สงสัยต้องแก้แพทเทิร์นเพราะชิ้นหน้าใหญ่ไปนิด ภาพรวมโอเค ....วันนี้คงได้แต่กุงเกงเดี๋ยวพรุ่งนี้มาคิดเสื้อต่อ....หลุนหลุนวิ่งมาทวงข้าวเย็นยิกๆ ...ไม่แน่ใจว่าเลี้ยงหมาหรือเลี้ยงหมูอยู่ ^^' 

ช่วงเช้าเก็บกวาดบ้านเจอไดอารี่ที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 56 เขียนบ้างไม่เขียนบ้างจนสิ้นปี ต่อด้วยปี 57 ในเล่มเดียวกัน (ขยันเขียนมากหน้าว่างเพียบ ฮ่าๆ)  แอบอ่านไดอารี่ตัวเองเห็นพัฒนาการทางความคิด สติและอารมณ์เยอะเหมือนกัน  ที่น่าสนใจคือพอเริ่มปีใหม่เรามักจะเขียนสิ่งที่อยากทำในปีนั้นไว้ จริงๆไปค้นอีกเล่มเจอตอนปี 55 ก็เขียนไว้หลายข้อส่วนใหญ่ตอนนั้นโฟกัสไปที่เรื่องของการประสบความสำเร็จที่เป็นวัตถุ ชื่อเสียงเงินทอง เช่นจะต้องทำแบรนด์ของตัวเองให้ดัง ต้องมีรายได้เดือนละเท่านี้ๆ บลาๆ  จำไม่ได้ว่าตอนนั้นอ่านหนังสืออะไร แต่เค้าบอกให้กำหนดเป้าหมายชีวิตที่อยากประสบความสำเร็จไว้สัก 10 ข้อ หยิบขึ้นมาอ่านทุกวันเป็นการย้ำเตือนตัวเอง แล้วสิ่งที่หวังไว้จะเป็นจริง.... พอทำไปสักระยะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่ มันดูเป็นเป้าหมายที่คำนึงถึงแต่ผลปลายทางและไม่ให้ความสำคัญกับวิธีการและจิตใจเท่าไร ถ้าจะทำให้ประสบความสำเร็จได้แบบที่เขียนไว้ก็คงทำได้ แต่คงเครียดจนร่างกายและจิตใจย่ำแย่ถ้าโฟกัสแต่ผลแบบนี้ ก็เลยล้มเลิกการตั้งความหวังแบบนั้นไป  ไม่แน่ใจว่าน่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่ตรวจพบว่าเป็นโรค SNSA รึเปล่า...เวลาน่าจะคาบเกี่ยวกัน


ปี 56 เป็นปีที่พ่อเสียช่วงกลางปี เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ช่วงต้นปีไม่ได้เขียนอะไรไว้ แต่หลังพ่อเสีย เริ่มจดบันทึกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับความคิดและจิตใจ ฟังธรรมทุกวัน น่าจะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจสติและอารมณ์ชัดเจนที่สุด 

ปี 57 เขียนไว้ตอนต้นปีว่า
 "ปีนี้ตั้งใจจะคิดน้อย พูดน้อยและมีสติให้มาก" 
คติประจำใจปีนี้ "ขยัน อดทนแลเก็บออม" (รู้สึกจะทำไม่ได้สักข้อ แหะๆ)  และต่อด้วยว่า
 I'm going to be a better person 
 I'm going to play piano
 I'm going to save money 


ปีนี้ 58 ตั้งใจเขียนข้อวัตรปฏิบัติให้ตัวเองใหม่ในไดอารี่เล่มเดิมนี่แหละ 
 "สันโดษ มีสติ และเก็บเงิน" 
เพราะรู้สึกว่ามีสามสิ่งนี้จะส่งผลดีกับชีวิต ทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจและการงาน ถ้าเราสันโดษ คือเราพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว สามารถมีึความสุขกับตัวเองได้ ไม่เรียกร้อง ไม่อยากได้มาก การละวางเรื่องภายนอกและอยู่กับตัวเองอยู่กับการงานที่ทำจะส่งผลดีในเรื่องการงาน และจิตใจก็ไม่ทุกข์ การมีสติจะช่วยให้เราไม่เผลอไผลไปกับสิ่งเร้าสิ่งยั่วต่างๆ โฟกัสกับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเองอย่างแท้จริง  และสุดท้าย เงินเก็บเป็นเรื่องสำคัญมาก ในอนาคตเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง การมีเงินสำรองไว้เป็นเรื่องที่ดี....และสองข้อแรกจะช่วยให้ข้อนี้ทำได้ง่ายขึ้น




สิ้นปีมาดูกันว่าจะทำได้แค่ไหน ^_^ /



 





บทความที่ได้รับความนิยม