ชีวิต...แค่นี้


เพิ่งกลับมาจากทริปเที่ยวที่ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะหาเวลาท่องเที่ยวบ้าง เนื่องจากสองสามปีที่ผ่านมาด้วยอาการป่วยส่วนหนึ่ง งานยุ่งส่วนหนึ่งและไม่มีเงินส่วนหนึ่ง...อันนี้ประเด็นหลัก...  :') ทำให้ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวที่ไหนเลย อยู่แต่กรุงเทพฯ

ปีนี้ไม่มีความใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวนอกประเทศ(จริงๆก็ไม่ใฝ่ฝันมานานแล้ว)  รู้สึกแค่อยากไปพักผ่อนเปลี่ยนอากาศบ้าง อยากไปสัมผัสท้องฟ้า ทะเล ภูเขา สายลมและแสงดาวบ้างเท่าที่เวลาและเงินในกระเป๋าจะอำนวย...^^'  

ก็คงเที่ยวในประเทศนี่แหละ... ตั้งใจจะเที่ยวให้บ่อยขึ้น คิดว่าจะหาเวลาว่างให้ได้แม้ช่วงสั้นๆก็เที่ยวแค่ทริปสั้นๆ 

ขับรถเที่ยวชิลๆไปเรื่อยๆ ไม่เน้นจุดหมายปลายทาง เน้นระหว่างทาง ได้พูดได้คุย ได้ชมวิวทิวทัศน์ ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกบ้าง และได้อยู่กับคนที่เรารักและรักเราอย่างเต็มที่...

....ชีวิตตอนนี้ต้องการแค่นี้


ผ่านร้อนผ่านหนาวมาสี่สิบกว่าปี(....แก่แว้ว ^^') 
ได้เรียนรู้ว่าที่ผ่านมาโลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ สิ่งที่เคยคิดไว้ตอนเด็ก ก็ไม่เหมือนที่เราคิดได้ตอนนี้ เคยมีความฝันแล้วก็พบว่าการใช้ชีวิตอยู่กับความจริง ณ ปัจจุบันดีกว่าการมีความคาดหวังแล้วผิดหวังบ่อยๆ...คนเคยรักก็เปลี่ยนเป็นคนเกลียดกันได้ เพื่อนเคยชอบวันนี้ก็มาไม่ชอบ เพื่อนที่เคยไม่ชอบ วันนี้กลับพอใจมากกว่า...

ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตามเหตุ ตามปัจจัย หาแก่นสารสาระอะไรที่จะไปยึดไว้ไม่ได้เลย ยึดทีไรเจ็บทุกที ยิ่งอันไหนรักมาก ยึดมากก็ยิ่งเจ็บมากทุกข์มาก

หันมามองชีวิตตัวเอง ฉันรู้สึกว่าตอนนี้งานที่สำคัญสำหรับชีวิตฉันคือการขัดเกลาตัวเอง และการมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปสร้างไปคาดหวังในอนาคต หรือตัดพ้อจ่อมจมอยู่กับอดีต อะไรที่มันผ่านมาแล้วให้มันผ่านไป...ไม่ไปให้น้ำหนักหรือให้ค่ากับความรู้สึกรัก ไม่ร้ัก ชอบไม่ชอบมากนัก ...ความรู้สึกก็เป็นแค่สิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้น หากไปพะเน้าพะนอมันมากก็หาความสงบได้ยาก

ตอนนี้ก็คิดแค่ว่าในหนึ่งชีวิตที่เราเกิดมา ไม่ว่าอดีตหรือต้นทุนจะมายังไง ณ วันนี้เราได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาจากเมื่อวานแล้วหรือยัง?  ยังมีตรงไหนอีกไหมที่เราควรฝึกฝนและขัดเกลาตัวเอง กิเลสข้อไหนที่เราพ่ายแพ้ต่อมันทุกที หาเจอแล้วก็พัฒนาให้ดีขึ้น...ดีกว่าเมื่อวานนิดหนึ่งก็ยังดี นับได้ว่าใช้เวลาไปอย่างมีคุณค่า ไม่ได้นั่งหายใจทิ้งไปวันๆ 

สำหรับฉันแล้วกิเลสข้อโทสะ เป็นสิ่งที่ต้องขัดเกลาอยู่ทุกเวลานาที เผลอสติเมื่อไหร่ ก็ถูกมันลากจูงไปก่อกรรมก่อทุกข์ทุกครั้ง

ในความเห็นของฉัน สาระสำคัญของชีวิตมันม่ีอยู่แค่นี้.....

เรื่องทางโลกฉันตั้งใจจะถือสันโดษ เพียงประคับประคองให้มีอาชีพการงานที่เหมาะสมแก่การเลี้ยงตัว ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณ ...ม่ีคู่ชีวิตที่ดี มีมิตรสหายที่มีทิฐิเสมอกัน ศีลเสมอกันไว้พูดคุยยามเหงาบ้าง  ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วและรู้สึกพอใจแล้ว ไม่นึกอยากแสวงใดๆ เพิ่มเติม ไม่ได้อยากรวยมาก ไม่ได้อยากประสบความสำเร็จสูงสุด ไม่ได้อยากมีสามีหล่อรวย ไม่ได้อยากมีเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังเยอะๆ

....เรื่องเพื่อน...แต่ก่อนเคยแสวงหา อยากได้เพื่อนที่ดีเป็นกัลยาณมิตรเกื้อกูลกัน แต่พอมาถึงจุดหนึ่งก็เรียนรู้ว่าเราเองนี่แหละที่ต้องเป็นกัลยาณมิตรต่อตัวเองไปจนชีวิตจะหาไม่...ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอด ...ฟังเราได้ทุกเรื่อง ทุกคนต่างมีชีวิตของตัวเอง มีปัญหาของตัวเองที่ต้องแก้ไขเอง ไม่มีใครทำให้ใครได้ การมีเพื่อนคือการแตะกันในจุดที่ต่างคนต่างพอใจกันมากกว่า เช่นเรารักในสิ่งเดียวกันก็นัดทำกิจกรรมกันบ้าง เฮฮาปาร์ตี้กันบ้างแล้วแต่โอกาสจะอำนวย ไม่ใช่แตะกันทุกเรื่อง คนเรายิ่งใกล้กันมากยิ่งกระทบกันมาก เพราะงั้นกระทบในจุดที่เหมือนกันที่แฮปปี้ดีกว่า ส่วนที่ต่างกันก็ทิ้งระยะห่างกันไป ใครล่ะจะคิดเหมือนกันไปเสียทุกเรื่องทุกอย่าง ก็เราต่างมีต้นทุนมาต่างกัน มีสติปัญญาที่ต่างกัน....

วันนี้ฉันเลยยุติการแสวงหานี้ และรู้สึกเบาสบายขึ้นมาก.... 


...เพื่อน....พอใจเท่าที่มี และรักษาถนอมน้ำใจกันไว้...ก็พอแล้ว




บทความที่ได้รับความนิยม