My Real(ity) Life :3

ใกล้จะหมดเดือนพฤษภาคมแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เขียนบล๊อคของเดือนนี้เลย... ตั้งใจว่าอย่างน้อยจะเขียนสักเดือนละครั้ง เอาไว้ทบทวน เอาไว้บันทึกเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นในชีวิตตัวเอง หรือเรื่องที่คิดได้ ตอนสิ้นปีจะได้มานั่งอ่านว่าที่ผ่านมาเจออะไรมาบ้างและเราคิดแบบนี้แล้วมันใช่มั้ย? ถูกรึเปล่า? มีอะไรต้องปรับต้องแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเองบ้าง?  

ฉันเลิกติดตามชีวิตคนอื่นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะบนเฟสบุ๊ค....มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะไปเฝ้าดูหรือรับรู้เรื่องในชีวิตของคนอื่น ...ก็จริงที่เราควรเปิดรับข่าวสารบ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีประโยชน์ แต่สเตตัสบนเฟสบุ๊คโดยส่วนใหญ่ไม่ใช่ข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อตัวเราสักเท่าไรนัก แต่เราก็ทำตามๆกันไป อะไรขึ้นมาในฟี้ดที่เป็นเรื่องเพื่อน เรื่องชาวบ้านก็อ่านๆกันไป โดยไม่ค่อยหันมาดูภายในจิตใจตัวเองว่าเมื่อไปรับรู้เรื่องมาแล้วเกิดผลอะไรขึ้นภายในใจเราเองบ้าง มีรัก โลภ โกรธ หลงเกิดขึ้นมั้ย?

ฉันแค่รู้สึกว่าหากเราจะใช้เวลาไปกับการติดตามชีวิตใครสักคน คนแรกที่ควรตามคือตัวเราเอง.... ชีวิตตอนนี้เป็นไง? มีอะไรต้องอัพเดทเพื่อเตือนสติกันรึเปล่า? ก้าวเข้าใกล้จุดหมายที่ตั้งไว้สักแค่ไหนแล้ว? มีอะไรยังค้างคาใจทำให้วิตกกังวลหรือไม่? หรือแม้แต่เช้านี้ถ่ายออกดีมั้ย? มีอะไรผิดปกติภายในร่างกายหรือจิตใจตัวเองมั้ย?  ยังดูจะมีประโยชน์มากกว่าไปตามรู้เรื่องของคนอื่น....
ฉันจึงเริ่มปฏิบัติการตามติดชีวิตตัวเองตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา....ทุกวันนี้ฉันมีหน้าที่ต้องบันทึกเรื่องราวของตัวเองในสมุดบันทึก 3 เล่ม!

เล่มแรกเป็นสมุดคาเลนดาร์เล่มเล็กๆที่มีช่องสำหรับใส่นัดหมายตามวันที่ ซึ่งฉันเอามาดัดแปลงจดบันทึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายประจำวันตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องใดบ้าง? เท่าไร? เอาไว้ดูเตือนสติแต่ละเดือนว่าใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องมีสาระหรือไร้สาระแค่ไหนอย่างไร 
....ตั้งใจและตั้งท่าไว้ดี แต่ทีเริ่มจะเหลวลงเรื่อยๆ - -' เมื่อมาอ่านทวนพบว่า....

เดือนมกราคม ดูจะควบคุมตัวเองได้ดี อาจเนื่องมาจากต้นปีความตั้งใจที่จะเริ่มทำอะไรดีๆในปีนี้ยังแรงอยู่เลยไม่ค่อยสุรุ่ยสุร่ายมากนักและมีเงินเก็บตามเกณฑ์ที่ตั้งใจไว้..ทุกอย่างดูจะไปได้สวย

เดือนกุมภาพันธ์ พิจารณาจากรายการใช้จ่ายแล้วเริ่มออกไปทานข้าวกับเพื่อนบ่อยขึ้น เดินห้างซื้อเสื้อผ้าบ่อยขึ้นมาก....มีรั่วเรื่องใช้จ่ายประปรายแต่ยังคงออมเงินได้ตามเกณฑ์... 


 


เดือนมีนาคม เดือนเกิดนี่นา สปอยล์ตัวเองด้วยการซื้อ Ruruko ตัวแรกในชีวิต เป็นของขวัญวันเกิดที่แพงมากตามมาด้วยการออกไปทานข้าวสังสรรค์กับเพื่อนมากขึ้นอีก  - -" 

~Babychitchi Ruruko Pink ~


เดือนเมษายน เมื่อทบทวนสิ่งที่เจอคือพอเราปล่อยใจไปกับเรื่องตุ๊กตามันก็มาแบบไม่ขาดสาย คือพอหลุดตัวนึงเหมือนประตูนรกเปิดออก มันตามมาอีกเป็นขโยง... ไม่น่าเชื่อว่าภายในเดือนนี้เดือนเดียวฉันถอยตุ๊กตาใหม่ถึง 5 ตัวกับอีก 1 หัว!! 

มี Ruruko ตัวเดียวกลัวจะเหงาเลยหาเพื่อนใหม่มาอีกตัว(พอมีกิเลสเหตุผลตามมาตกแต่งทันที 'กลัวน้องเหงา' - -' )
-Babychitchi Ruruko Blue ~Nude บิดจาก YJ 

อยากได้ Momoko เพิ่ม เหตุผลคือผมสีนี้ยังไม่มีและชอบม้าเต่อ แล้วแหม โชคดีเจอลงบิดในราคาไม่แพงด้วย  ...ตอนนั้นไม่ทันฉุกคิดว่ามันมี 'โชคดี' ในการจะเสียเงินด้วยเหรอ? - -'    
  -CCS-momoko Today's 08SS Cowardly Lion~Nude บิดจาก YJ

เหลือบไปเห็นข้างๆ อ๊ะ! มีลงบิดหัวตัวนี้ อยากได้มากซื้อราคา full set ไม่ไหวหรอกดีจังมีแต่หัวราคาเลยถูกม๊ากก เดี๋ยวมาหาตัวใส่ทีหลังก็ได้ ดีซะอีกประหยัดดั๊วะ  ....มองเห็นกระบวนการหลุดเป็นทอดๆ - -'  
 -Wake-up Momoko WUDsp Monchichi purple ~Head จาก YJ เช่นกัน  
สรุป 3 ตัวนี้ซื้อพร้อมกันทีเดียวเพื่อประหยัดค่าส่ง...นี่หรือเหตุผล?!?
 

วันงานดอลล์โทเปียมีบูธดีลเลอร์ของ Petworks จากเกาหลีใต้มาออกบูธ ช่วงใกล้เลิกงานว่างเลยเดินไปดูปรากฎว่าเจอ U-Noa light ตัวออกใหม่มาขายด้วย คือตัวนี้นั่งเฝ้าดูอยู่ก่อนมาพักนึงแล้วแต่หาใน YJ ไม่มีใครเอามาลงเลย พอเห็นรีบผวาเข้าไปดีใจมากกกก ถามราคามาก็พบว่าแสนจะถูกคือขายราคาปกติเหมือนซื้อกับ Petworks ญี่ปุ่นไม่มีการขึ้นราคาพิเศษอะไรแต่อย่างใด อยากได้ทั้งตัวผู้หญิงและผู้ชาย แต่ด้วยปัจจัยมีไม่พอเลยสอยตัวผู้หญิงมาแค่ตัวเดียว  เวลาอยากได้อะไรมากๆแล้วบังเอิญเดินไปเจอมานี่ฟีลมันมีความสุขมากๆ เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่เดินละเมอเหมือนโดนผีเข้า ตอนนั้นหน้ามืดแล้วไม่ลังเลที่จะควักเงินสอยนางนี้มานอนกอดอีกคน  ป้จจุบันสถานภาพคือยังอยู่ในกล่องไม่ได้แกะออกมาเล่น เนื่องจากคิวเล่นตอนนี้ไม่ว่าง!...แล้วซื้อมาเพื่อ?!?  ....เอาน่าไม่ซื้อตอนนี้เดี๋ยวต่อไปราคามันแพง แฮ่!
-U-Noa Qulits Light Flourite Scholl style ver. girl.



เดิมมี Betsy อยู่แล้วหนึ่งตัวถ้วน ซื้อจากฮ่องกงเมื่อครั้งไปงาน Dollism ปี 2009 เจอนางนี้ยืนเหงาๆอยู่ในกล่องผมบ๊อบสีส้มถามราคาแล้วไม่แพงเลยสอยมาซะ แล้วก็เก็บไว้ลูบๆคลำไม่เคยได้ออกสื่อ ชอบแต่ไม่ได้เล่นเนื่องจากตอนนั้นเล่น Blythe อยู่นางเลยนอนนิ่งอยู่ในกล่องมาเกือบ 7 ปี ช่วงนี้มีกระแสเล่นตุ๊กตาวินเทจ เพื่อนๆเค้าเล่น Licca chan กันซึ่ีงมีหลาย gen มาก คิดว่าคงตามศึกษาตามเล่นไม่ไหว ถ้าจะเล่นวินเทจเราเองก็มีต้นทุนคือเบ็ทซี่อยู่แล้ว เลยคิดว่าในเมื่อเริ่มต้นมาแล้วก็ต่อยอดทางนี้ก็แล้วกันไม่ต้องไปเล่นเหมือนคนอื่นเค้าก็ได้ ...ก็เริ่มดูๆและหาข้อมูลเบ็ทซี่ตามเว็บบ้าง พอมาออกบูธงานดอลล์โทเปียเจอน้องโบว์ขายเบ็ทซี่ในงานดอลล์ น้องไปบิดจากอีเบย์มาแล้วเอามาขายต่อ บูธเราติดกันนั่งมองหน้ากันไปมาเกิดถูกโฉลก ผมสีดำไม่ซ้ำกับตัวที่มีด้วย กอรปกับน้องโบว์ใจดีขายให้ในราคาต้นทุนซึ่งไม่แพงก็เลยสอยกลับบ้านมา...  เห็นมั้ยว่าเหตุผลมันฟังดูดีเสมอเวลากิเลสเกิด หึหึหึ...


 




 -Tiny Betsy McCall Pink Portrait ~Nude จากงานดอลล์โทเปีย







หลังจากนั้นก็เข้าเว็บดูรูปเบ็ทซี่บิ้วท์ตัวเอง สำนวนตอนนี้เค้าเรียกป้ายยาตัวเองคือดูไปเรื่อยๆ ว่าเค้าแต่งตัวแนวไหน ถ่ายรูปออกมาแล้วแต่ละรุ่นเป็นยังไงจนมาเจอรูปน้องผมหยิกใน IG เห็นแล้วปิ๊งเลย อยากได้ ผมหยิกเรายังไม่มี สีผมนี้ก็ยังไม่มี(เหตุผลมาอีกแล้ว..) หาชื่อรุ่นมาเสิร์ชตามจนเจอในอีเบย์ ไม่ลังเลอีกเช่นกันที่จะบิด สรุปว่าบิดชนะมาในราคากลางๆคือไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงมาก แต่ด้วยความที่มือใหม่ในอีเบย์มากๆ เพิ่งจะรู้ว่าค่าชิปปิ้งมหาโหด เพราะ seller ใช้ global shipping program ของอีเบย์ค่าชิปเกือบเท่าราคาตุ๊กตาเลยทำให้ราคาสุทธิของนางนี้สูงลิ่วเกินกว่าที่ตั้งใจไว้....ถามว่าชอบมากมั้ย ตัวนี้ใช้คำว่ารักเลยดีกว่า แต่ราคาเกินจากที่ตั้งใจไปนิด ก็พยายามไม่คิดถึงเรื่องราคา เอาเถอะไหนๆก็บิดมาแล้วอย่าไปคิดมาก - -' 
 

-Tiny Betsy McCall Yesteryear ~Nude   






 










เดือนนี้ พฤษภาคม เริ่มสำเหนียกถึงพฤติกรรมรั่วทางการเงิน เงินเก็บร่อยหรอจนแทบจะหมดเลยตั้งใจจะคุมประพฤติตัวเองให้มากขึ้น แทบไม่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย แต่อยู่บ้านก็เหงาๆ และมีแอบเข้าไปดูเบ็ทซี่บ่อยๆไม่ว่าจะ Ebay หรือ YJ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว แอบสอย Vintage Betsy McCall จาก Etsy มาอีกตัว(ไหงงั้น!!) เพื่อนฝูงยังไม่มีใครรู้เพราะไม่อยากบอกให้ใครมาเย้ยหยันว่าไหนว่าจะไม่ซื้อแล้วไง? เฮอะๆๆ... - -'

เอาจริงๆอยากได้วินเทจผมสี brunet นะแต่ในตลาดตอนนี้สวยๆสภาพดีและราคาไม่แพงไม่มีมาลงเลย น้องคนนี้ seller ไม่ได้บอกว่า red หรือ auburn hair ดูจากภาพ(ซึ่งแสงแย่มาก)เดาว่า auburn สภาพดีเข่าไม่แตกเป้าไม่แคร๊ก เมคอัพแจ่ม หน้าตาจิ้มลิ้ม ราคาเยาว์ ดีครบขนาดนี้ไม่สอยไม่ได้แว้วว....ขณะนี้รอการมาถึงของนางอยู่ T_T  

จบน้องตัวนี้คิดว่าควรหยุดได้แล้ว(ควรหยุดซะตั้งนานแล้ว..) อย่างมากก็อาจซื้อวินเทจ brunet อีกตัวถ้าเจอสวยๆแล้วคงจะปิดงบตุ๊กตาแต่เพียงเท่านี้...จะทำได้มั้ยไม่แน่ใจแต่จะหมั่นรู้ทันกิเลสตัวเองให้มากขึ้นในทุกๆวัน หวังว่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย  crossed fingers!!!

พระท่านว่าเมื่อใช้จ่ายไม่มีสติ สตางค์ก็ไม่เหลือนะโยม ..อาเมน... !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



เดือนหน้าฮึดสู้กันใหม่นะแจ๊ะ .... ^^'


เล่มที่สองเป็นสมุดบันทึกที่ตั้งใจจดบันทึกความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงไป สมุดเล่มนี้เขียนตั้งแต่ปี 56 จนถึงปัจจุบันยังไม่หมดเล่มเลยลืมบ้างไรบ้าง ^^'  ช่วงแรกๆก็จะเขียนเหมือนสมุดบันทึกทั่วไป ขึ้นต้นด้วย dear diary บลาๆๆ  เล่าทุกอย่างที่อยากเล่า เขียนยาวมากจนหลังๆขี้เกียจเขียนเบื่อไปเอง ตอนหลังเลยมาพิจารณาว่านี่อาจไม่ใช่แนวตัวเอง เรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นจริงแต่เป็นเรื่องที่เราไม่อยากจำ หรือไม่อยากไปพะเน้าพะนอความรู้สึกด้านลบให้มันมากนัก ช่วงปี 57 เลยเปลี่ยนแนวมาเป็นเขียนลิสต์สิ่งที่อยากทำในวันนั้นๆ และบันทึกอาการป่วยของตัวเอง สิ่งที่คิดได้ เป้าหมายประจำปีและอะไรต่อมิอะไรเล็กๆน้อยๆ
  
ปีนี้ 58 สมุดบันทึกเล่มเดิมแต่เปลี่ยนแนวใหม่ ตั้งใจให้เป็นการจดบันทึกเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจตัวเองล้วนๆ ลูกชิ้นล้วนๆเส้นกับน้ำไม่เกี่ยว  :)   ....เช่นวันนี้ตื่นนอนกี่โมง? ตื่นมาแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? สดชื่นหรือเพลียๆ? กำลังใจเป็นยังไง? มีอะไรรบกวนจิตใจอยู่รึเปล่าถ้ามีจะแก้ไขอย่างไร? โรคกำเริบมั้ย?  ออกไปจ่ายตลาดซื้ออะไรมาบ้าง? หากมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ดีจะไม่เขียนเล่าแต่จะเขียนเป็นสรุปความคิดที่ตกผลึกมาดีแล้ว ออกมาเป็นวลีสั้นๆไม่กี่ประโยค หรือคำคมอะไรก็แล้วแต่ที่รู้สึกว่ามันตรงกับสิ่งที่พบเจอ พยายามจะไม่เยิ่นเย้อหรือพะเน้าพะนอความรู้สึกของตัวเอง บันทึกหลังๆเลยเริ่มกระชับและสั้นจึงเขียนได้บ่อยขึ้น อีกทั้งยังเขียนแค่รู้สึกตัวอย่างไรก็เขียนเลยไม่ต้องแต่งประโยคหรือโยงเป็นเรื่องราวอะไร  ฉันว่าแบบนี้มันดีกับตัวฉันเองมากกว่า ข่วยดึงสติและจิตใจให้กลับมาอยู่ที่ตัวเองด้วย เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราควรรู้จักใจตัวเอง เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจตัวเองยามที่ถูกกระทบไม่ว่าจะด้วยเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี..

 อ้อ..มีแถมวาดรูปประกอบการบันทึกไปด้วย สุดแท้แต่ความรื่นรมย์ตอนนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปหลุนกับช่ายเวลาทำอะไรตลกๆ ^^   





เล่มที่สามเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน เป็นสมุดสเก็ตภาพ ใช้สำหรับวาดรูปออกแบบชุดตุ๊กตาต่างๆที่คิดว่าอยากทำ เขียนดีเทลว่าใช้ผ้าแบบไหน สีอะไรจะตกแต่งอะไรบ้างแยกออกมาเป็นส่วนๆ แล้วทำแพทเทิร์นขึ้นแบบจริง ใจจริงอยากถ่ายรูปชุดจริงที่ทำขายแล้วมาแปะไว้ด้วย ว่าเหมือนหรือต่างจากแบบร่างที่คิดไว้แต่แรกอย่างไรบ้างแต่ก็ยังไม่เคยได้ทำเลยขี้เกียจตลอด ...เล่มนี้เอาจริงๆก็ไม่ค่อยได้วาดด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่นั่งๆอยู่ก็จะหยิบเศษกระดาษใกล้มือมาวาดแบบร่างลวกๆแล้วขึ้นแบบเลยมากกว่าจะมากางสมุดเล่มนี้ คงต้องค่อยๆปรับหาวิธีจัดการ ทำยังไงให้การบันทึกลงสมุดเล่มนี้สะดวก ง่ายและเข้ากับธรรมชาตินิสัยของตัวเองมากที่สุด จะได้รู้สึกอยากจะบันทึกบ่อยๆ 




แล้วก็มีบล๊อคนี้นี่แหละที่ตั้งใจจะอัพเดทความคิดความเข้าใจของตัวเองในแต่ละช่วงเวลา หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่กำลังทำกำลังสนใจ  ตั้งใจว่าอย่างน้อยควรอัพเดือนละครั้ง  ^^
       




บทความที่ได้รับความนิยม