วันนี้ที่สำเพ็ง

วันนี้ช่วงบ่ายหลังจากเอาเงินไปฝากตามร้านขายผ้าจนกระเป๋าฟี้บขากลับออกมาจากตรอกพาหุรัดก็ข้ามถนนมุ่งหน้ามาไชน่าเวิร์ลแล้วนึกขึ้นได้ว่าจะแวะซื้อลูกไม้รองแก้วซะหน่อย  ร้านขายลูกไม้ที่แวะนี้เป็นแผงอยู่บนทางเท้าหน้าตึกไชน่าเวิร์ลเยื้องๆร้านขายสังฆภัณฑ์ ที่แผงจะมีลูกไม้รองแก้ว ลูกไม้ดอยลี่สำหรับตกแต่ง หรือพวกผ้ารองจานถักโครเชต์ที่ขอบ ร้านนี้เราชอบแวะซื้อบ่อยๆ เจ้าของร้านเป็นซิ่มแก่ๆ ตัวเล็กๆ ผอมๆ พูดไทยน้อยแต่หนักแต้จิ๋วเป็นชุด  คือแกพูดไทยได้ ประเภทพอจะฟังคำว่า อันนี้เท่าไร และบอกราคาได้ ...หากถามอะไรที่แกต้องอธิบายเกิน 5 คำแกจะพ่นแต้จิ๋วใส่เป็นชุดโดยไม่สนใจว่าหยิงไทยดั้งน้อยๆ อย่างฉันจะเข้าใจมั้ย?...เคยโดนจนมึน...ในหัวคิดว่านี่กุอยู่พาหุรัดรึมณฑลเสฉวนกันแน่? อยากจะจ้างล่ามกันเลยทีเดียว.... - -' 

anyway...ตอนเดินเข้าไปเลือกลูกไม้สังเกตุว่ามีลูกค้าผู้หญิงอยู่ก่อน 2 คน คนหนึ่งนั่งเก้าอี้รอริมแผงด้านหนึ่ง อีกคนหนึ่งยืนเลือกๆอยู่กลางแผง ฉันก็เข้าไปแจมโดยยืนอยู่ข้างขวาของคนที่ยืนเลือกอยู่ ...ผู้หญิงสองคนนี้รูปร่างหน้าตาคล้ายคนไทยมาก แต่นางเป็นเขมร ที่รู้ก็เพราะฟังจากภาษาที่เค้าใช้คุยโต้ตอบระหว่างกัน.....
"จะเดกะดอมพรึดดดดเพรี๊ยกกกเตหย่องโมเกี๊ยก ฯลฯ" 
อะไรเทือกๆนี้...นางเป็นหญิงสาววัยน่าจะสี่สิบต้นๆ ลักษณะน่าจะมีการศึกษาพอสมควรดูจากการแต่งกาย การวางตัวและการพูดภาษาอังกฤษกับอาซิ่ม นางใส่เสื้อยืดคอวีสีขาวสะอาดทรงประมาณซาร่า สวมแว่นกันแดดทรงเก๋ กางเกงยีนส์ขาสั้นดูทะมัดทะแมงหิ้วกระเป๋าหนีบข้างใบกลางๆ แบรนด์รึเปล่าไม่รู้ดูไม่ออกเพราะฉันคุ้นเคยแต่แบรนด์ซุปไก่สกัดเท่านั้น...
ลักษณะนางจะยืนเจรจาต้าอ่วยกะอาซิ่มสักพักนึงแล้วและคาดว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่อง พอนางได้ยินเราถามราคาอาซิ่มเป็นภาษาไทยแล้วอาซิ่มฟังรู้เรื่องตอบกลับทันทีนางเลยหันมาเจรจากับเราเป็นภาษาอังกฤษแทนหวังจะให้เราช่วยทรานสเลทให้การช้อปปิ้งของนางง่ายขึ้น....หึหึหึ หารู้ไม่ว่าถ้าถามเยอะๆกุก็สภาพไม่ต่างกะเมิงเท่าไร.....แต่ในฐาแนะเอ้ยฐานะเจ้าบ้านเราก็ต้องทำหน้าที่ต้อนรับแขกเหรื่อให้ดีที่สุด...ก็ช่วยนางไป สั้นๆกุพอได้อย่ายาวอย่าเยอะก็แระกัน...
เราสองคนเลือกลูกไม้กันอย่างมีสีสันนางอยากรู้อันไหนราคาเท่าไรเราก็ถามให้ มีการปรึกษากันอันนี้ลายสวยกว่าอันนี้ แถมเรายังช่วยแนะนำให้นางเลือกดูดีๆ ราคาถูกก็จริงแต่บางอันมีรอยเปื้อนด้วยนะยู๊ววว....
เลือกกันไปสักพักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามแทรกเข้ามาระหว่างเรากับผู้หญิงเขมรคนนี้ พอหันไปมองก็พบว่าด้านหลังของเราทั้งคู่มีผู้หญิง 3-4 คนยืนมุงๆทำท่าเหมือนจะขอเข้ามาเลือกของด้วยแต่เข้าไม่ได้ คือที่รู้สึกผิดปกติอย่างแรกคือคนที่แทรกเข้ามาเนี่ยแทรกได้เสียมารยาทมากคือมันไม่มีที่จะให้แทรกนะแต่นางแหวกซะเราเกือบล้ม เราก็ไม่ว่าอะไรมองๆแล้วก็ขยับที่ให้คิดในใจว่านางคงอยากช้อปขี้เกียจรอ ขาช้อปด้วยกันต้องเห็นใจกันค่ะเราก็ให้นางเข้ามายืนกลางระหว่างเรากับผู้หญิงเขมร แป๊บเดียวเท่านั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเขมรคนนี้โวยวายเป็นภาษาอังกฤษขึ้นมาเสียงดังลั่นว่าถูกล้วงกระเป๋า! นางหันไปกล่าวหาผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังนางว่าพยายามจะล้วงมือเข้ามาในกระเป๋าสะพายของนาง แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เถียงเสียงดังไม่ลดละเหมือนกันว่า 
"อะไรยะฉันจะยกมือขึ้นไปหยิบลูกไม้ที่แขวนอยู่ด้านบนไม่ได้ทำอะไรหล่อนเลยโวยวายบ้าอะไร" 
แล้วนางผู้หญิงคนที่แทรกเข้ามาก็พูดเสริมประมาณว่า 
"ใช่ๆดูซิจะเข้าไปเลือกก็เลือกไม่ได้ยืนกันเต็มแบบนี้ทำให้ต้องเอื้อม" 
...อ้าวอีหอยยยย....กุอุตส่าห์ขยับที่ให้แล้วนะ...
หญิงเขมรนางก็ไม่ลดละท่าทางนางมั่นใจมากแล้ววัยสี่สิบต้นๆอย่าหวังว่าจะหน้าบางไม่เอาเรื่องเป็นสมัยวัยรุ่น รุ่นนี้แระถึงไหนถึงกัน นางก็ร่ายยาวล้งเล้งเป็นภาษาอังกฤษว่า 
"ไม่จริงหร่อนล้วงมือเข้ามาในกระเป๋าฉัน ไอแคนฟีลอิท" 
....นาทีนั้นเราก็เริ่มหันไปมองรอบๆกายแล้วพบว่าผู้หญิงเขมรคนนี้เหมือนโดนล้อมกรอบ คือตอนแรกนางยืนติดกับเรา ขวามือนางคือเราส่วนซ้ายมือนางคืออาซิ่มคนขายแต่พอคนพวกนี้เข้ามาคนหนึ่งแทรกเข้ามากันเราออกไปจากทางด้านขวา มีผู้หญิงอีกคนแทรกกันอาซิ่มซึ่งอยู่ด้านซ้ายออกไป แล้วผู้หญิงที่เป็นคนเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋านั้นยืนอยู่ด้านหลังของเขมรนางนี้ โดยมีอีกคนยืนประกบหลังซ้อนอีกทีเหมือนกันไม่ให้คนเดินผ่านไปมาเห็นว่าทำอะไรกันอยู่ ล้งเล้งกันสักพักนางนักล้วงก็ทำท่าสะบัดบ๊อบบอกว่า
 "ล้วงเลิ้งห่าอะไรจะบ้าเหรอเชอะกูไปดีกว่า" 
แล้วเดินสะบัดตูดจากไป ส่วนนางนกต่ออีกสองคนยังยืนคุมเชิงอยู่ที่ร้านเหมือนทำทีว่าไม่ได้มาด้วยกัน พอนางคนล้วงไปทัวริสเขมรรายนี้ก็มาถามเราว่า 
Do you know her?.....อ้าววววววว!!!
...มะกี้ยังช้อปกะกูมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมีฟามสุข ยังแอบคิดว่าเดี๋ยวช้อปเสร็จจะแลกไลน์กันเราอาจมีเพื่อนสนิทเป็นชาวเขมรฉลอง AEC ก่อนใครไหงมาถามว่ากุรู้จักกะหัวขโมยมั้ย?!
...มิตรภาพข้างแผงลอยนี่มันช่างไม่จีรังเอาซะเลย เรารีบส่ายหน้าแล้วโปรเจคเสียงสูงตามที่ได้ดู AF มาสิบกว่าซีซั่น "โน๊วววววว ไอแอมอโลน"....แหม่...นึกแล้วพูมใจภาษาปะกิดตัวเองจินๆ   
"ยูรู้มั้ยคนเมื่อกี้นี้พยายามจะล้วงกระเป๋าฉัน ฉันรู้สึกเลยว่ามีซัมติงล้วงเข้ามาในกระเป๋าพอฉันหันกลับไปจับกระเป๋านางก็เอามือออก" ทัวริสขแมเล่าเป็นต่อยหอยเราก็ได้แต่ 
"เรียลลี่ๆ" 
พยักหน้าหงึกๆ คือไม่ใช่อะไรตอนนั้นนึกประโยคภาษาอังกฤษอะไรไม่ออกเลย คือเขียนเมล์คุยกะลูกค้าฝรั่งได้เป็นต่อยหอย แต่ถ้าคอนเวอเซชั่นกันสดๆอิฉันขอเวลาสร้างประโยคสักหนึ่งชั่วโมงจิได้มั้ย? ไม่รู้จะช่วยนางยังไง ต้องปลอบใจกันมั้ยหรือจะพานางไปเลี้ยงก๊วยจั๊บนายอ้วนเยาวราชดีไม่แน่ใจว่าควรพูดอะไรออกไปบ้างหัวสมองมึนตึ้บไปหมดทุกอย่างเร็วมาก ก็เลยได้แต่ จิงดิๆ เพื่อให้รู้ว่ากุฟังเมิงอยู่นะ...
ช่วงนั้นนางนกต่ออีกสองคนก็ยังอยู่พอเราหันไปมองหน้าใช้สายตาถามว่าหร่อนเห็นอะไรมั่งมั้ยจ๊ะ? นางทำหน้าเบื่อๆแล้วพูดขึ้นมาว่า "ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแค่จะเข้ามาดูของ"
....แต่กุไม่เห็นเมิงหยิบจับอะไรเลยนะตั้งแต่แทรกเข้ามาหน่ะ พูดด้วยสายตาอีกเช่นกัน....
ชะรอยทัวริสขแมคงจะเห็นว่าพึ่งพาอะไรเราไม่ได้เลยหันไปเม้าส์มอยสอยเข็มกะเพื่อนนางแทน จังหวะนั้นเราเลยเรียกอาซิ่มมาคิดเงิน ลูกไม้รองแก้ว 4 อัน 
"โหะสิห้าบาทอั๊วะลดให้ลื้อ 5 บาท คิแค่โหะสิ.."  
วันนี้ซิ่มดูใจดีเป็นพิเศษ....ใครผ่านไปวันหลังอย่าได้ไปถามเชียวว่าซิ่มเห็นอะไรมั้ย?....ถ้าอยากฝึกแต้จิ๋วก็ตามใจ...เราเตือนท่านแล้ว 

ฉันเดินออกมาจากแผงโดยไม่ได้ล่ำราเพื่อน AEC ไลน์เลยอะไรก็ไม่ได้แลกกันไว้เพราะกลัวนางจะไลน์มาถามว่า
"ตกลงยูรู้จักกันใช่มั้ยตอบมาซะดีๆ?" 
 .....
ตอนเดินกลับดิโอลด์ฯ ฉันแอบกระชับวงล้อมด้วยการเหนี่ยวกระเป๋าที่หนีบไว้ข้างๆ แน่นกว่าเดิมแถมโยกมากอดไว้ด้านหน้าด้วยเพื่อฟามมั่นใจ..
...โปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าในเป๋ามีตังค์เยอะสิท่า ....คือถ้ามีโจรมาวิ่งราวกระเป๋าไปคาดว่ามันคงจะวิ่งกลับเอามาคืนพร้อมแถมเงินค่ารถให้อีก 20 บาทเพราะสมเพช...

...ถึงกุจะไม่มีตังค์แต่กุหวงของ กระเป๋ากุเย็บเองด้วยเข้าใจนะ.... 

    

 

บทความที่ได้รับความนิยม