หลุน-หลุนกับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 4

ภาคผนวกปลีกย่อย 2

ตอนที่หลุนเป็นแรกๆเราเองก็ได้หาทางเลือกในการรักษาที่อื่นนอกเหนือจาก รพส.เกษตรเอาไว้เหมือนกัน หาข้อมูลมาได้พอควรว่ามีหมอที่ไหนบ้างที่เก่งเรื่องระบบประสาทและข้อกระดูกและประจำที่ไหนบ้าง(ซึ่งแต่ละที่ก็ไกลจากบ้านมาก) มีหมอท่านหนึ่งเก่งมากๆเป็นที่โจษจันใน social ขนาดหมาเป็นอัมพาตไปแล้วหมอยังรักษาจนกลับมาเดินได้ ใช้ชีวิตปกติได้ แต่ท่านประจำ รพส.จุฬา ซึ่งไกลบ้านเรามาก ท่านมีมาประจำตามคลีนิกเอกชนอีกหลายแห่งซึ่งแห่งที่ใกล้บ้านเรา(โรงพยาบาลสัตว์โอะไดจินิ) หมอจะเข้าแค่เดือนละครั้งเท่านั้นและเราต้องไปทำเรื่องกับทางโรงพยาบาลเค้าไว้ก่อนถึงจะนัดจองคิวกับหมอได้(ซึ่งเจ้าหน้าที่รพส.ก็ย้ำกับเราว่าคิวหมอยาวมาก)  และแน่นอนค่ารักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลเอกชนพวกนี้จะต้องแพงมาก เราพิจารณาแล้วรู้สึกไม่ค่อยลงตัวกับเรา เพราะถึงจะไปที่ๆใกล้บ้านที่สุดแต่การต้องรอเจอหมอเดือนละคร้้งมันน้อยไป  ถ้าเกิดเหตุด่วนอะไรหรือต้องการการรักษาต่อเนื่องหมายถึงเราต้องกะเตงหมาตามหมอไปตามคลีนิกต่างๆที่หมอไป เพื่อให้หมาได้รับการักษาที่ทันท่วงที และถ้าต้องผ่าตัดเท่าที่อ่านมาหมอท่านนี้จะส่งเคสไปผ่าที่ รพส.จุฬาซึ่งเจ้าของก็ต้องไปทำประวัติรักษาใหม่ที่นั่นไว้ก่อน เพราะคลีนิกเอกชนบางที่ก็ผ่าไม่ได้เครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม หรือถ้าพร้อมค่าผ่าก็คงจะแพงระยับจนรับไม่ได้  คิดแล้วรู้สึกวุ่นวายมาก จึงตัดสินใจไม่ได้ไปหาหมอเก่งท่านนั้น  


รพส.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใกล้บ้านและลงตัวกับเรามากที่สุด เครื่องไม้เครื่องมือก็พร้อม แค่เครื่อง MRI อย่างเดียวที่อื่นก็ต้องมาใช้บริการที่นี่แล้ว เรากับอรุษปรึกษากันแล้วเราควรมีความสะดวกในการเดินทางมารักษา เพราะเราต้องมาบ่อยๆ สองเดือนที่ผานมาหลุนต้องมาเกือบทุกอาทิตย์บางทีก็อาทิตย์ละสองครั้ง  เพราะฉนั้นเราควรหาที่รักษาที่ไม่โหลดกับตัวเองจนเกินไป จริงอยู่ได้หมอเก่งก็ดี แต่การพึ่งพาหมอเก่งอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับเรา เราจึงปรึกษากันว่าหมอไม่ต้องเก่งมากแต่เราใช้สติปัญญาของตัวเองช่วยหมอในการวินิจฉัยคัดกรองด้วยมันก็น่าจะโอเค 
ในความเข้าใจของเรา แน่นอนหมอเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่ตรงด้านเพราะเขาร่ำเรียนมาแบบนั้น แต่เราเป็นเจ้าของสัตว์เรารู้จักหมาเรา จากประสบการณ์ทีเราอยู่กับหมาทุกวัน เราสังเกตุและเราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมาตั้งแต่แรก ข้อมูลจากเราจะช่วยในการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำมากขึ้นและเป็นผลดีต่อการรักษาหากหมอและเราต่างรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าหมอพูดอะไรเราก็ต้องเชื่ออย่างเดียว หรือว่าเราเชื่อแต่ตัวเองไม่เชื่อหมอ  เพราะฉนั้นถ้าจะพึ่งพาแต่หมอเก่งมันก็ได้ง่ายดีไม่ต้องคิด แค่ลงทุนเรื่องเงินและเวลาที่ต้องขับรถไปไกลๆ อดทนที่จะต้องไปเจอหมอเก่งที่คิวรักษายาวเป็นหางว่าวทำหน้าที่แค่พยักหน้ากับจ่ายเงิน คือมันอาจจะเหมาะสำหรับคนที่มีความจำเป็นบางอย่างอันนี้แล้วแต่ เพียงแค่เราคิดว่านั่นไม่ใช่เรา


ถึงแม้จะเคยเจอประสบการณ์ไม่ดีกับที่นี่มาบ้าง แต่เราก็ยังมั่นใจกว่าเพราะที่นี่เป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดและเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ก็ทันสมัยพรั่งพร้อมและดีที่สุดในประเทศ  ส่วนเรื่องหมอและบุคลากร เราว่าทุกที่ก็มีทั้งคนดีและไม่ดี คนเก่งและไม่เก่ง เราไม่คิดว่าจะมีรพส.ที่ไหนหมอดีหมอเก่งทุกคน ลองไปเสิร์ชกูเกิ้ลดูได้ ไม่มีโรงพยาบาลสัตว์ไหนไม่โดนด่า ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดี คนเก่งและไม่เก่งปะปนกันไป อยู่ที่ความมีสติของเราด้วย ถ้าเราเจอหมอไม่ดีครั้งสองครั้งแล้วสาปส่งโรงพยาบาลว่าไม่ดีต่อไปจะไม่มาหาอีกแล้ว อุ้มหมาไปรักษาที่อื่น เจอไม่ดีอีกก็เปลี่ยนอีก จนที่สุดคุณจะพบว่าไม่มีที่ไหนให้คุณไปรักษาได้อีกแล้ว เพราะทุกที่ก็มีคนไม่ดีเรื่องไม่ดีทั้งหมดนั่นแหละ 
ถ้าหมอรักษาแล้วหมาตาย ก็อย่าเอาแต่ชี้หน้าโทษหมอ ต้องโทษตัวเองด้วยว่าเราไม่ได้ใช้สติปัญญาของตัวเองเลย เชื่อเค้ามากไปโดยไม่ฉุกคิดทั้งๆที่เราอยู่กับหมาแมวเรามากกว่าหมอ มันก็น่าจะผิดที่เราด้วยไม่ได้ผิดที่หมออย่างเดียว ...ถ้าเราไม่ตั้งความหวังกับหมอให้มากจนเกินไป รู้จักใช้เขาแต่เพียงความรู้ที่เขาร่ำเรียนมาโดยตรง ไม่ใช่นับถือเขาเป็นพระเจ้าพูดอะไรต้องเชื่อหมด 

หมอจะว่าอย่างไรวินิจฉัยอย่างไรที่สุดแล้วการตัดสินใจทุกอย่างมันขึ้นกับเราไม่ใช่หมอ....

ไม่มีหมอคนไหนสามารถมาบังคับให้เราทำนู่นทำนี่ได้ถ้าเราไม่ยินยอม หมอเป็นเพียงผู้แนะนำเสนอวิธีการรักษา เราก็แค่หาข้อมูลให้มากๆ และใช้สติปัญญาวิเคราะห์พิจารณาเองด้วย  ถ้ารู้สึกว่าวิธีของหมอไม่โอเคก็ลองเปลี่ยนหมอดู  ทุกอย่างมันต้องวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง ใช้สติปัญญาของต้วเองด้วยจะได้ไม่พลาด  

ปัจจุบันโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆในประเทศไทย คือโรงพยาบาลสัตว์ของคณะสัตวแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เก่าแก่และน่าเชื่อถือก็จะมี ม.เกษตรศาสตร์ฯ ม.จุฬาลงกรณ์ฯ และ ม.มหิดล (เกษตรมีเครื่อง MRI แน่ๆ มหิดลไม่มีแน่ๆ ส่วนจุฬาฯไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า)  ที่เหล่านี้หมอเยอะมากเพราะเป็นสถานที่สอนนักศึกษาแพทย์ มีหมอหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาตลอด ปีๆหนึ่งนักศึกษาแพทย์จบใหม่ก็เยอะแยะ อาจารย์หมอเองก็มีลงมาตรวจ แล้วแต่โชคหากเจอก็จับจองจดชื่อไว้ขอคำปรึกษาใช้บริการครั้งต่อไป 

เกิดอะไรขึ้นอย่าเอาแต่โทษหมอโทษคนอื่น ช่วยโทษตัวเองด้วย ถ้าจะบอกว่าก็ฉันไม่รู้นี่ ฉันไม่ได้เรียนหมอมาจะไม่ให้เชื่อหมอได้อย่างไร เราก็อยากบอกว่าสมัยนี้แม้แต่หมอยังสู้กูเกิ้ลไม่ได้เลย  ข้อมูลเยอะมากแค่พิมพ์อาการลงไปค้นหามันก็เด้งขึ้นมาให้อ่านเพียบ ค่อยๆหาค่อยๆอ่านมีคนมาเขียนแบ่งปันเยอะแยะ ขอเพียงคุณตั้งใจหาข้อมูลให้มากๆก่อนไปหาหมอ หมอพูดอะไรมาเราจะได้พิจารณาได้ว่ามันน่าจะใช่มั้ย หมอก็เป็นคนมีโง่มีฉลาดมีรักโลภโกรธหลง บางวันก็เบลอ เผลอสะเพร่า ของพรรค์นี้มันพลาดกันได้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดไม่ว่าจะอาชีพไหน ถ้าหมอไม่พร้อมแต่เราพร้อมความเสียหายมันก็เกิดยาก แต่ถ้าไม่พร้อมด้วยกันทั้งคู่ก็ขนมผสมน้ำยา...โทษแต่หมอคงไม่ได้เราพูดได้แค่นี้...

สุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าลืมว่า เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสัจธรรมของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้ หมาแก่แล้วป่วยเป็นเรื่องธรรมดา อุบัติเหตุเป็นเรื่องไม่คาดคิดและมันเกิดขึ้นได้ แม้เราจะรักเค้ามากปานแก้วตาดวงใจแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่ตาย สักวันนึงเค้าก็ต้องตายจากเราไปอยู่ดี การระลึกถึงความจริงข้อนี้บ่อยๆจะทำให้เรามีสติทำทุกวันที่อยู่ด้วยกันให้ดีที่สุด และรับความจริงได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....


 

บทความที่ได้รับความนิยม