งาน vs บุญ



การทำสิ่งนั้นเพื่อให้ได้สิ่งนี้ไปวันๆ แล้ววิ่งไปหาสิ่งใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ควรส่งเสริมให้มีในชีวิต

การใช้ชีวิตด้วยสติ หมั่นใช้ปัญญาพิจารณาการกระทำของเราเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริมเพื่อให้เราไม่ต้องทุกข์โดยไม่จำเป็น และไม่ต้องทำมากเกินความจำเป็น 


.
          'ทำงานเพื่องาน' ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าว 
แต่คนจำนวนไม่น้อยไม่เข้าใจคำล่าวนี้ 
และกำลังทำงานเพื่ออย่างอื่นแล้วพบกับความทุกข์โดยไม่จำเป็น 
รวมทั้งเหนื่อยเกินจำเป็นอีกด้วย 
ทำงานเพื่อเงิน 
ทำงานเพื่อชื่อเสียงผลประโยชน์ฯลฯ  
พอไม่ได้ก็เป็นทุกข์ เพราะไม่เข้าใจหลักธรรมชาติ

ถ้าเราทำงานเพื่อตัวงาน จะทำให้งานของเรามีการพัฒนาที่ดีขึ้น
เนื่องมาจากการใส่ใจและมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงาน ไม่มีจิตไปพะว้าพะวงเรื่องอื่น  
ทำให้เห็นในรายละเอียด เห็นจุดบกพร่องที่ควรแก้ไข และสิ่งดีที่ควรส่งเสริม  
สิ่งที่ได้คืองานพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ 
เมื่องานเราดี สิ่งอื่นๆที่เป็นผลพลอยได้จะตามมาเองโดยไม่ต้องร้องขอหรือคาดหวัง

เหมือนการปลูกต้นไม้ ตั้งแต่วันแรกที่ปลูกต้นอ่อน 
เราใส่ใจรดน้ำพรวนดินดูแลอย่างดีในทุกๆวัน ใส่ใจในการปลูก
เราจะเห็นสิ่งที่ควรเห็น  น้ำมากไป น้อยไป ดินเป็นอย่างไร  
ต้นไม้โตขึ้นในทุกวันๆ อยู่แล้วเมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดี
ส่วนดอกและผลนั้นเมื่อเหตุปัจจัยมันถึงพร้อม มันจะมาเอง โดยไม่ต้องไปบนบานศาลกล่าว 

การปลูกต้นไม้แล้วนั่งใฝ่ฝันถึงดอกผลที่ยังมาไม่ถึงทุกเมื่อเชื่อวันจึงเป็นความทุกข์ใจโดยเปล่าประโยชน์
การคิดฟุ้งซ่านไปซื้อหาปุ๋ยยาเคมีต่างๆมาระดมใส่หวังให้ดอกผลมาไวๆ จึงเป็นการเหนื่อยยากโดยไม่จำเป็น
.
.
เช่นเดียวกับการทำบุญ ทำบุญก็เพื่อบุญ 
แต่ก่อนอื่นคงต้องทราบเสียก่อนว่า 'บุญ' คืออะไร? 

                  ในศาสนาพุทธ 'บุญ' หมายถึงเครื่องชำระจิตใจ 

การทำบุญคือการสละ ละ วาง เป็นการกระทำเพื่อขจัดความโลภ โกรธ หลงในตนเอง
.
เราจะขัดเกลาความโลภในจิตใจได้ ด้วยการทำบุญด้วยทานวัตถุ 
เป็นการสละ กิเลสแห่งการยึดติดหวงแหนในสิ่งของหรือทรัพย์สินที่มี 
....ซึ่งไม่เกี่ยวกับจำนวน 

ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐีพันล้าน บริจาคเงินหนึ่งล้านบาทให้การกุศลเพื่อออกทีวี 
กับชาวบ้านคนหนึ่งสละเงิน 50 บาทให้กับเด็กนักเรียนที่ทำกระเป๋าสตางค์หาย
เพื่อให้เด็กได้มีค่าเดินทางและมีเงินกินข้าว 

บุญที่ได้ย่อมไม่เท่ากัน 


ในแง่ของจำนวน 1 ล้านบาท ย่อมมากกว่า 50 บาท
แต่ 1 ล้านบาทของเศรษฐีไม่ได้เป็นไปเพื่อการขจัดกิเลสความโลภในตัวเองแต่อย่างใด
มันจึงไม่เป็นบุญ  เป็นเพียงการจ่ายเงิน 1 ล้านบาทเพื่อให้ได้ออกทีวีเท่านั้น
อันที่จริงเป็นการจ่ายเงินค่าออกทีวีที่แพงเกินจริงอีกด้วย 

ผิดกับ 50 บาทของชาวบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการขัดเกลา
แม้เป็นคนไม่ร่ำไม่รวย รวมทั้งเงินที่สละก็ไม่มาก 
แต่เป็นการสละเพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์เดือดร้อนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ 
การกระทำนี้ทำให้เขาได้ขัดเกลากิเลสของตัวเองในแง่ของการสละทรัพย์เป็นทาน 
และยังได้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย   

บุญที่ได้ย่อมมากกว่าเศรษฐี 

นี่คือความหมายของคำว่าบุญไม่ได้ขึ้นกับจำนวน 
  ...มันขึ้นกับเจตนา....

การอยากทำบุญทำทานเป็นจำนวนมากๆ ทั้งที่เงินไม่พอ 

นอกจากจะผิดวัตถุประสงค์ของทานข้อนี้แล้ว ยังอาจทำให้เราหลงไปทำสิ่งที่ผิด
เช่นไปเรี่ยไร บอกบุญจูงจิตจูงใจให้บุคคลอื่นหลงในทานวัตถุ 
เน้นทำบุญให้ได้ตามเป้าจำนวนเงินที่วางไว้
ซึ่งหากมีใครบ้าจี้หน้าใหญ่ใจโต เอาทรัพย์สินเงินทองในครอบครัวที่ควรแก่การนำไปทำประโยชน์อื่นๆ ในชีวิตของเขา มาทุ่มเททำบุญเพราะหวังในบุญผิดๆ 

นอกจากจะไม่เป็นบุญแล้ว ยังจะเป็นบาปอีกด้วย  เพราะมีส่วนในการยุยงส่งเสริมกิเลสในจิตใจผู้อื่น
.

                เราขจัดขัดเกลาความโกรธในใจตนเองได้ด้วยการให้อภัยทาน 

โดยเฉพาะผู้ที่มักโกรธ 
การพยายามที่จะขจัดความโกรธในจิตใจตัวเองด้วยการหมั่นให้อภัยผู้อื่น 
เป็นการขัดเกลาจิตใจโดยตรงให้เห็นโทษภัยของไฟโกรธที่เผาผลาญตัวเองอยู่ 
และอาจลามเลียไปเผาผลาญผู้อื่นด้วยหากไม่รู้จักระงับ  ละวาง 

ว่ากันว่า ความโกรธเหมือนไม้ขีดก้านเดียวที่สามารถเผาป่าทั้งผืนได้ในพริบตา
บุญกุศลที่สั่งสมมาเป็นเวลานานก็ไร้ความหมาย หากเผลอโกรธแล้วไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตใครเข้า

การปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจจึงเป็นภัยที่น่ากลัว 


การให้อภัยทานจึงเป็นทานที่ยากอีกระดับหนึ่ง และควรอย่างยิ่งในการหมั่นปฏิบัติขัดเกลา 


.

              เราขจัดขัดเกลาความหลงในใจตนเองและผู้อื่นได้ด้วยการให้ธรรมเป็นทาน 

การให้ธรรมทาน เป็นการขัดเกลาความหลงทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น 
การที่จะแนะนำธรรมให้ผู้อื่นได้นั้น ตัวเราต้องเข้าใจและถ่องแท้ในธรรมนั้นเสียก่อน
ด้วยการศึกษา ฝึกปฏิบัติ คิดพิจารณาจึงเป็นการขจัดความไม่รู้(หลง)ของตนเองในขั้นแรก 

เมื่อมีโอกาสนำธรรมนั้นไปเผยแผ่แนะนำ ทำให้ผู้ไม่รู้ พ้นจากความไม่รู้ อันจะก่อทุกข์ในชีวิตของเขาต่อไปภายภาคหน้าได้ จึงนับเป็นบุญอันใหญ่หลวงและมีอาณิสงฆ์มาก 

เช่นการบอกกล่าวแก่บุคคลผู้นิยมการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต 
ให้เห็นถึงโทษภัยแห่งการเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่น 
ส่งผลให้เขาเข้าใจและนำไปปฏิบัติ ได้ละเว้นชีวิตผู้อื่นไปตลอดช่วงอายุขัยของเขาเอง 
ยังผลแก่ชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยในอนาคตมากมายที่ไม่ต้องมาตายโดยไม่จำเป็น 
และตัวบุคคลนั้นก็ไม่ต้องมีเวรมีกรรมอันเนื่องจากกระทำด้วยความไม่รู้นั้นด้วย 
จึงนับเป็นบุญอันใหญ่หลวง  

ธรรมทานจึงเป็นการเป็นการทำบุญที่ม่ีอาณิสงฆ์มาก เพราะทำได้ยากและมีผลในวงกว้างเกินจะคาดเดา
.
.
        สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นไปเพื่อให้เราพัฒนาตัวให้มีสติ ใช้ปัญญาในการนำพา
ชีวิตให้รอดพ้นจากความทุกข์โดยไม่จำเป็นทั้งปวง 
และคำสั่งสอนในเรื่องศีลและทานของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติแบบองค์รวม 
การปฏิบัติและการทำบุญจึงควรทำไปด้วยกัน 

ไม่เลือกทำเป็นอย่างๆ หรือเลือกเฉพาะข้อที่จะได้อาณิสงฆ์มากเท่านั้น


การจะขัดเกลาตัวเองต้องใช้ทั้งศีลและทาน เหมือนการล้างมือ 

มือซ้ายล้างมือขวา มือขวาล้างมือซ้าย ช่วยกันขัดช่วยกันเกลา มือจึงจะสะอาดหมดจด  
.
.
                        สิ่งที่อยากบอกคืออย่ามักง่ายในการทำบุญ...อ่ออไม่สิ! 
                                     อย่าได้มักง่ายกับอะไรเลยในชีวิต. 





บทความที่ได้รับความนิยม