DollPaca 2019


เมื่อวาน (8 กันยายน 2562) เป็นงาน DollPaca  
งานจัดที่โรงแรมเบอร์เคลีย์  ประตูน้ำเหมือนเดิม 
จัดที่ห้องพลาลาเดี่ยมฮอลล์เหมือนเดิม 
ฉันไปออกบูทขายของเหมือนเดิม
....แต่มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนเดิม

ฝากสตางค์จองบูทให้ 3 บูทเมื่อหลายเดือนก่อน 
ตั้งใจว่าจะทำห้องและเฟอร์นิเจอร์ไปขายเลยอยากได้พื้นที่เพิ่ม 
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ พื้นที่เลยโหรงเหรงแต่ก็กว้างดี :D



เตรียมชุดสำหรับขายในงานนี้นานพอสมควร 
บางชุดทำเก็บไว้เมื่อสองเดือนที่แล้ว
แต่บางชุดเพิ่งจะคิดแบบออกเมื่อเร็วๆนี้ 
ทำให้ต้องเร่งงานเหมือนเดิม 
...ที่ไม่เหมือนเดิมคือเครียดน้อยลง
พยายามคิดว่าไม่ทันก็ไม่เป็นไร 
เก็บไว้ขายใน Etsy ก็ได้




ระยะหลังมานี้รู้สึกร่างกายต้องการนอนน้อยลง 
ตี3 ตี4 ก็นอนต่อไม่ได้แล้ว
แรกๆก็หงุดหงิดกังวลใจพอควร 
แต่พอวางใจเสียใหม่ 
ปล่อยวางความรู้สึกกลัวว่าจะพักผ่อนไม่พอลงซะ
กลับพบว่าเราควร "ฟัง" ร่างกายตัวเอง
มากกว่าจะเอามาตรฐานสากลเรื่องควรนอนให้ได้ 8-9 ชั่วโมงมาตัดสิน

หลายๆ เรื่องในชีวิต
พอเอามาตรวัดของคนอื่นมาใช้
ความพอดีในชีวิตก็ไม่เกิด

ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือ เหนื่อยเมื่อไรก็หยุด
ง่วงเมื่อไหร่ก็เดินไปนอนได้ เตียงอยู่แค่นี้
นอนพอแล้วค่อยลุกมาทำงานต่อ

ข้อดีของการตื่นมานั่งทำงานตอนตี3 
คืออากาศเย็นสบาย 
ความเงียบสงบมีสมาธิ
ฉันมักเปิดคลิปนำสมาธิของ พอจ.ชยสาโรฟังไปด้วย
รู้สึกจิตใจสงบ เย็นสบายดีมาก

การตื่นเช้ามากทุกวัน 
ทำให้พอตกค่ำก็ง่วงแล้ว 
3-4 ทุ่มตาแทบจะปิด
เลยได้นอนเร็วขึ้นมาก  
ถึงจะตื่นตี 3 ก็ยังสดชื่นอยู่ 

โชคดีอีกอย่างที่ได้ซื้อเครื่องชงกาแฟไว้ที่บ้าน
พอตื่นมาก็สามารถเดินไปชงกาแฟสดหอมกรุ่นได้เลย
ไม่ต้องรอร้านเปิด
กาแฟสดหอมๆตอนตี3 
ท่ามกลางความเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย 
แค่นี้ก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
ได้อยู่กับธรรมชาติของตัวเอง
มีความสงบ เรียบง่าย 
ทำให้ตระหนักได้อีกครั้งว่าชีวิตเราไม่ได้ต้องการอะไรเยอะแยะนัก
เพื่อจะมีความสุข 



งานดอลล์คราวนี้มีงานไปขายค่อนข้างเยอะ 
ออกแบบใหม่ไว้ 5 แบบ ทั้งนั่งเย็บเองและส่งช่าง
ใส่ดีเทลลงไปในงานได้มากขึ้น 
มีทั้งกระเป๋า หมวก ผ้าพันคอ จิปาถะ
ทำให้ต้องมองหาแพ็คเกจจิ้งใหม่ที่จะรองรับชุดที่มีชิ้นส่วนหลายๆชิ้น
อีกอย่างงานดอลล์ทั้งทีก็อยากจะมีอะไรพิเศษๆ บ้าง
เลยได้สั่งกล่องคราฟจาก BoxJourney  มาใช้
กล่องมาแบบเกลี้ยงๆ ขนาดกะทัดรัด 
แลดูเรียบเกินไป
เลยได้ไปจตุจักรหาซื้อดอกไม้แห้งมาติด 
คุ้ยเอาตัวปั๊มที่ซื้อจากญี่ปุ่นเมื่อสิบกว่าปีก่อนมาใช้ 
และออกแบบโลโก้เป็นแบบสายคาดกล่องเพิ่ม 
เก๋ไก๋ดูมีอะไรขึ้นเยอะ 
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน 2 วันก่อนวันงาน 
ค่อนข้างฉุกละหุกอสมควร
ทำให้นึกถึงคำของ พอจ.ชยสาโรที่ว่า

"รีบ ช้าๆ"

เป็นคำง่ายๆ ที่เตือนสติว่า
เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไรก็ให้รีบลงมือทำ
และให้ทำอย่างมีสติละเอียดในทุกกระบวนการ

ท่านพูดถึงคำนี้ในความหมายทางธรรมหมายถึงว่า

อาการรีบ คือเมื่อรู้แล้วว่าชีวิตนี้ สิ่งใดควรทำก็ให้รีบลงมือทำซะ
อาการช้าๆ คือให้ใส่สติสัมปชัญญะลงไปในการทำนั้น

คำพูดนี้สามารถนำมาปรับใช้ได้กับการงานในชีวิตประจำวันด้วย
ลืมตาตื่นขึ้นเมื่อไร
ให้ระลึกรู้ถึงสิ่งที่ควรทำแล้วลงมือทำอย่าเกียจคร้าน
ใส่สติ และมีสมาธิกับการงานนั้นๆให้ละเอียดในทุกขั้นตอน
ความสุข สงบจะเกิดกับใจเรา
และทำให้การงานที่ทำออกมาดีด้วย
เมื่องานออกมาดี ก็จะนำความภาคภูมิใจมาให้ตัวเราเอง
ผู้บริโภคงานเราก็จะได้งานที่ดีไปครอบครองด้วย
สรุปว่าได้ประโยชน์ในหลายมิติ
ทั้งต่อตัวเอง และผู้อื่น
ทั้งภายในจิตใจและภายนอก
กายและใจไปพร้อมๆ กัน

พอคิดทำแพคเกจจิ้งใหม่
ก็เลยต้องไปจตุจักรหลายรอบเพื่อหาอุปกรณ์ให้ครบ 

ข้อดีของการทำแพคเกจจิ้งใหม่คือ
ได้ไปเดินดูดอกไม้แห้งที่จตุจักร
ทำให้ได้ไอเดียในการตกแต่งจัดบูทในวันงานด้วย
ซึ่งฉันกำลังกลุ้มใจเรื่องไอเดียการจัดบูทอยู่พอดี 
คืนก่อนวันงานเลยได้ออกแบบบูทใหม่จนเสร็จ
สวยพอใช้ได้เชียวล่ะ.. :)


ข้อดีของการทำแพคเกจจิ้งใหม่
คือลูกค้าบางคนนอกจากได้เลือกลายผ้าจากชุด 
เลือกพร้อบที่ให้ไปแล้ว
ก็ยังจะเลือกกล่องจากดอกไม้แห้งที่ตกแต่งไว้ที่กล่องอีกด้วย  
เพราะแต่ละกล่องก็ทำไม่เหมือนกัน 
รู้สึกสนุกดีนะ..
เหมือนเราได้มีอะไรไว้เล่นกับลูกค้า 
มีงานให้เค้าคิดต่อ ได้ใช้เวลายืนเลือกพินิจพิจารณา
อารมณ์เหมือนไปนั่งกินสุกี้แล้วได้ลวกนั่นลวกนี่ด้วยตัวเอง :D

งานดอลล์ครั้งนี้ฉันต้องเตรียมข้าวกลางวันมากินเอง 
ผิดจากทุกทีที่จะสั่งปลาแซลม่อนมากิน 
งานดอลล์ทุกครั้งเขาจะแท่กในเฟสเพื่อให้สั่งปลามากินกลางวันในงาน
สะดวกไม่ต้องไปหาของกินข้างนอก  
แต่คราวนี้เขาไม่ได้แท่ก 
ฉันจึงไม่รู้ว่าเขาขายเนื่องจากไม่ได้ฟอลโล่เพื่อนๆในเฟสบุ๊คเลย

กลางวันก็เลยได้กินหมูน้ำผึ้งที่เหลือจากจตุจักรวันเสาร์
กับข้าวเหนียวแข็งๆ
สอนให้รู้ว่าการเอาข้าวเหนียวค้างคืนมาอุ่นไมโครเวฟตอนเช้านั้นไม่เวิร์ค 
โชคดีที่เตรียมแคนตาลูปไปกินด้วย
ก็พอได้อยู่นะ 

ข้อดีของการไม่ได้สั่งปลาดิบมากินในงาน
คือได้ประหยัดเงินไปหลายร้อย

งานดอลล์คราวนี้นอกจากความภาคภูมิใจในงานที่ทำไปวางขาย
ได้พบปะกับลูกค้าตัวเป็นๆ บ้างปีละครั้งสองครั้ง
ที่ยังความปลาบปลื้มใจและความสุขมาให้มากอยู่
ก็มีสิ่งที่รบกวนจิตใจอยู่บ้างพอสมควร
ในเรื่องเพื่อน เรื่องความเปลี่ยนแปลงของระดับความสัมพันธ์
เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ในวันนั้น
เพราะการเปลี่ยนแปลงตอนไม่เจอหน้ากัน
กับตอนเจอหน้ากันความรู้สึกมันต่างกันนะ
ไม่เจอหน้ากันเขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา
แต่พอต้องมาเจอกัน อยู่ใกล้กัน
ทำให้ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรไปทั้งวัน 
ปกติในงานดอลล์จะพูดคุยหยอกล้อกันกับกลุ่มเพื่อนเป็นที่สนุกสนาน 
คราวนี้เหมือนตัวคนเดียว
ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปคุยด้วย
เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา 
ได้แต่นั่งเอาหูฟังเสียบฟังเพลง
เพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินอะไรที่ทำให้เก็บมาคิดมาก

สิ่งที่รบกวนจิตใจไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจ
แต่เป็นความว้าวุ่นใจว่าจะเลือกตอบสนองกับสถานการณ์นี้แบบไหนดีมากกว่า
หลังงานดอลล์มาหลายวันจึงได้ค้นพบว่า
บางอย่าง บางเรื่องก็ไม่ต้องการการตอบสนอง
ไม่ได้มีเหตุผลอะไรไปมากกว่าความสงบสุขของตัวเราเอง
ที่จะปล่อยผ่านอะไรบางอย่าง
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ให้ผ่านไปเหมือนสายน้ำในลำธาร
ไม่ว่าสิ่งที่ผ่านมาจะเป็นดอกไม้ หรือเศษขยะ
เราควรจะปล่อยมันผ่านไปตามกระแส
อย่าไปยึดไว้ หรือให้ความหมาย ให้ความรู้สึกอะไรกับมันเลย

ช่วงบ่ายๆปุ๋มกับกวางเกาะแขนกันเดินมาคุยด้วยที่หน้าบูท
น่าจะเป็นเพราะหายยุ่งแล้ว ลูกค้าเริ่มซาๆ  
ทำให้พอจะมีรอยยิ้มและผ่านวันไปได้แบบไม่เฝือเท่าไร
ได้ตุ๊กตาตัวใหม่กลับบ้านมา 1 ตัวด้วย :)

ขนมที่ได้จากงานวันนั้น
มีซีเรียลจากพี่หญิง
ที่ฉันกินเพลินๆตอนไม่มีลูกค้าหมดไป 1กระปุก
หมี่ผัดแสนอร่อยที่ได้สั่งซื้อผ่านแท่กจากกวาง
กับคุ้กกี้ลูกพรุนถุงเล็กๆ ที่เขาเอามาให้
ตอนแรกก็งงๆ ว่าเขาทำอย่างนี้เพื่ออะไร?
แต่สุดท้ายก็ได้รับไว้
เพื่อรักษาน้ำใจกัน

ข้อดีของการเป็นคนเดียวที่ถูกเขามองข้าม
คือการได้นั่งคนเดียวเงียบๆ (ฮา) 
ไม่ต้องคุยกับเพื่อนในงานดอลล์ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
เอาไว้สอนใจ ว่าอะไรมันก็ไม่แน่ 
ครั้งหนึ่งเคยสนิทกัน 
วันนี้มันก็ไม่ใช่เสียแล้ว...
มันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

ข้อดีของการต้องเดินออกมาจากอะไรที่คุ้นเคย
คือการได้ตระหนักว่า 
โลกนี้มันกว้างใหญ่มากนะ 
และเราไม่ใช่ต้นไม้ที่มีรากงอกติดกับพื้น
ถ้าอยู่ตรงไหนแล้วไม่สบายใจก็แค่เดินออกมาซะ
มีพื้นที่อีกเยอะให้เราได้เติบโต




.....

จบงาน DollPaca 2019 แต่เพียงเท่านี้ 
ขอบคุณสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้

Grow through what you go through
.....







ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม