หลุนหลุน กับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 2
29 เมษา - 2 พฤษภา หลุนมีอาการดีขึ้นมาก แทบจะไม่มีอาการปวดเกร็งเลย ยกเว้นช่วงเช้าแป๊บเดียวช่วงบิ้วท์ก่อนกินข้าว วันนี้เป็นวันแรกที่หมอเพิ่มยาบางตัวและให้กินยาเคลือบกระเพาะช่วงเช้าก่อนอาหาร 1 ชม.ครึ่ง ลำบากเล็กน้อยเพราะปกติหลุนตื่นมาจะได้กินเลย แต่นี่ต้องรอชั่วโมงครึ่งเลยเครียดและบิ้วท์จนปวดอีกรอบ แต่สักพักก็หาย วันนี้หลุนวิ่ง หลุนเริ่มเดินมากไม่ค่อยยอมให้อุ้ม สามารถเดินขึ้นลงทางลาดได้ ตอนเย็นไม่มีอาการเลย แถมยังวิ่งปร๋อหลังอาหาร
3 พฤษภา หมอนัด มาถึงก็เจาะเลือดตรวจอาการพยาธิในเม็ดเลือด หมอแจ้งว่าเกล็ดเลือดดีขึ้นมากแต่ยังไม่ปกติ อย่างอื่นก็โอเค ยังต้องทานยาพยาธิในเม็ดเลือดต่อ หมอจัดตารางยาเพื่อค่อยๆลดสเตียรอยด์ลงที่่ผ่านมาหลุนได้เต็มโด๊ซมาตลอดซึ่งอันตรายต่อตับ ตอนนี้ค่าตับค่อนข้างสูง หมอจ่ายยาบำรุงตับเพิ่ม
4-18 พฤษภา หลุนปกติดีไม่มีอาการ
19 พฤษภา หยุดสเตียรอยด์วันแรก ตอนเย็นดูมีอาการเล็กน้อย แต่ยังอยากเล่นและไม่มีอาการซึม
20-23 พฤษภา หลุนอาการแย่ลง ตั้งแต่หยุดสเตียรอยด์มีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ
24 พฤษภา หมอนัด สรุปว่าลดสเตียรอยด์แล้วอาการกลับมา ปรึกษากับหมอและตกลงกันว่าคงต้องทำ MRI แล้ว หมอคิดว่าน่าจะมีการกดทับเส้นประสาทที่มากทำให้อาการอักเสบไม่สามารถหายได้เองทันทีที่หยุดยาอาการก็กลับมา ยาแก้ปวดปกติก็เอาไม่อยู่ต้องสเตียรอยด์เท่านั้น ตกลงกันว่าหมอนัดวันที่ 26 พฤษภามา x-ray ปอด ตรวจคลื่นหัวใจเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการวางยาสลบเพื่อทำ MRI หมอฉีดยาแก้ปวด แก้อักเสบให้อย่างละเข็มและให้กลับไปให้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซเหมือนเดิมเพื่อให้หลุนกลับมาเฟรชที่สุดและพร้อมสำหรับการวางยา
26 พฤษภา หมอส่งตรวจคลื่นหัวใจ x-ray ช่องอก ผลออกมาปกติดี พร้อมสำหร้บการทำ MRI วันที่ 31 พฤษภา
27-30 พฤษภา หลุนมีอาการน้อยลงเริ่มร่าเริงขึ้นหลังได้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซ
31 พฤษภา ทำ MRI ผลออกมาคือมีหมอนรองกระดูกที่คอข้อหนึ่งหลุดเข้าไปกดทับไขสันหลัง ภาพถ่ายด้านบนเห็นชัดว่ามีการอักเสบและไปบล๊อคไม่ให้น้ำไขสันหลังเดิน น้ำไขสันหลังขาดไปช่วงหนึ่งเลย แต่หมอตั้งข้อสังเกตุว่า ระยะที่หมอนรองเข้าไปกดทับมันไม่มากไม่น่าจะถึงกับต้องผ่าตัด หมอดูไม่แน่ใจเลยปรึกษากันว่าจะลองรักษาด้วยยาไปอีกระยะนึงก่อนมั้ยเผื่อว่าหลุนจะหายได้เอง แต่ระหว่างนี้หมอจะหาคิวผ่าตัดรอไว้ให้เลย ฟังดูแล้วก็โอเค เพราะตอนนี้ดูแล้วก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน หมอจัดยาให้เต็มโด๊ซ 1 อาทิตย์และอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยๆลดยาลงเพื่อดูหลุนอีกครั้งว่าจะหายเองได้หรือไม่ หมอนัดอีก 2 อาทิตย์ถัดไป ระหว่างนี้หมอให้สเตียรอยด์เผื่อไว้ให้เราสามารถปรับเพิ่มโด๊ซได้เองหากหลุนมีอาการก็ไม่ต้องรอให้ทรุดมาก หมอนัดอีกที 21 มิถุนา เพื่อดูอาการ 22 มิถุนา เป็นว้ันที่หมอนัดผ่าตัดไว้ให้แล้ว ถ้า 21 หลุนหายได้เอง 22 ก็ไม่ต้องผ่า ตกลงกันตามนี้
1-7 มิถุนายน หลุนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ สดใสร่าเริงบ้ากิน แต่ดูจะมีอาการถ่ายเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มสงสัยสเตียรอยด์จะไปกดภูมิฯ ทำให้มีอาการท้องเสียร่วม แต่โดยรวมไม่มีอาการอ่อนเพลียใดๆ
8-14 มิถุนายน เริ่มลดเสตียรอยด์เหลือวันละเม็ด ก็ยังดูปกติดี ขับถ่ายปกติสลับกับเหลว
15 มิถุนายน งดสเตียรอยด์วันแรก ก็ยังดูปกติอยู่ ช่วงนี้ตารางคือให้สเตียรอยด์วันเว้นวัน
16-18 มิถุนายน เริ่มมีอาการกลับมาอีกครั้ง สรุปได้เลยว่าหลุนไม่หายเอง ขาดยาไม่ได้เลยต้องปรับโด๊ซยากลับมาเต็มอีกครั้งเพื่อให้หลุนเฟรชที่สุดสำหรับการผ่าตัดวันที่ 22 มิถุนายน
21 มิถุนายน หมอนัด เตรียมความพร้อม เจาะเลือดตรวจ หมอแจ้งว่าหลุนพร้อมมากทั้งค่าเลือดค่าตับค่าไต หมอชมว่าค่าตับไม่ขึ้นเลยไม่น่าเชื่อเพราะว่าให้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซ เรายิ้มๆไม่ได้บอกหมอว่าแอบบำรุงตับหลุนด้วยอาหาร ไม่ได้พึ่งยาอย่างเดียว
22 มิถุนายน คิวผ่าตัดเช้า 8:30 หลุนเข้าห้องผ่าตอนเกือบ 9 โมงเช้า ออกมาอีกทีคือเที่ยงเกือบบ่าย นางนอนสลึมสลือมึนยาสลบอยู่ในห้องพักฟื้น หมอแจ้งว่าผ่าเข้าไปเจอหมอนรองกระดูกแตกและมีเศษๆเข้าไปกดทับเส้นประสาทหลายชิ้น และหลุนต้อง admit เพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลหนึ่งคืน เพราะเป็นการผ่าตัดกระดูกคอซึ่งมีเส้นประสาทเยอะมาก อาจต้องให้มอร์ฟีน หรือเผื่อฉุกเฉินใดๆจะได้ใกล้มือหมอ เรากังวลใจเล็กน้อยค่าที่หลุนไม่เคยนอนที่อื่นโดยไม่มีเราอยู่ด้วยมันจะยอมมั้ย แต่ก็คิดว่านางน่าจะปวดแผลและมึนยาสลบไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงโวยวายอะไร อีกอย่างก็แค่คืนเดียวใกล้หมอไว้ก็ดี บ่ายโมงขึ้นไปทำเรื่อง admit กว่าจะได้กลับบ้านก็บ่ายสอง แวะกินข้าวกลางวันก่อน พอถึงบ้านนั่งยังไม่ทันหายเมื่อยมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เป็นหมอประจำบ้านที่ต้องดูแลหลุนระหว่าง admit โทรมาด้วยน้ำเสียงบ๊งเบ๊ง บอกว่าหลุนร้องตลอดเวลา นางปีนกรงไม่ยอมนอน กัดสายน้ำเกลือขาด โวยวายจะออกมานอกกรง พอให้ออกมานางก็วิ่งไปทั่ว ร้องโวยวาย จนหมอบอกว่าขืนเป็นงี้ไปเรื่อยๆคงไม่เรียกว่าการพักฟื้นเพิ่งผ่ากระดูกคอมาแล้วมาปีนกรงแบบนี้หมอไม่โอเค เจ้าของควรมาเอาไปดูแลเอง เราก็งงๆ ไหนว่าต้องอยู่ใกล้หมอ แล้วน้ำเกลือกะมอร์ฟีนไม่ต้องให้แล้วหรือ สรุปคือหมอบอกว่าเอาไปดูเองได้แต่ต้องจำกัดบริเวณอย่าให้เดินมาก อย่าให้กระโดด ถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็รีบพามา น้ำเกลือไม่ต้องให้ ให้กินอาหารปกติได้เลย เรารีบขับรถกลับไปที่เกษตรเพื่อรับหลุน ระหว่างรอรับหลุนเกือบมีดราม่า เนื่องจากเห็นเจ้าหน้าที่ห้อง CCU ตีหมาในกรงหนึ่งที่ร้องโวยวาย พยายามมองแต่ไม่เห็นว่าเป็นหลุนรึเปล่าที่โดนตี รู้สึกร้อนรนกังวลใจมากแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรออกไปเพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นว่าใช่สิ่งที่คิดรึเปล่า ได้แต่แผ่เมตตาและขอให้ได้หลุนคืนไวๆ ระหว่างยืนรออยู่ด้านนอกได้ยินเสียงนางร้องโวยวายตลอดเวลา เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมาร้องขนาดนี้กลัวว่าจะกระทบกับแผลผ่าตัด กว่าจะได้หลุนคืนก็พักใหญ่ ระหว่างรอจ่ายเงินค่ายาที่ชั้นล่างวิ่งไปซื้อไส้กรอกบุชเชอร์ให้หลุนกินประทังไปก่อนเพราะรู้ว่านางหิวแน่ๆ อดข้าวอดน้ำตั้งแต่เมื่อวานเพื่อการผ่าตัดจนบ่ายสามวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยน้ำเกลือก็ไม่ได้เพราะดันไปกัดสายน้ำเกลือขาดหมด หลุนกินไส้กรอกด้วยความหิวโหย มีร้องครวญครางบ้างเหมือนเด็กสะอึกสะอื้นและดูวิตกกังวลทุกครั้งที่เราหรืออรุษลุกเดินออกห่างจากตัว คงกลัวโดนทิ้งไว้โรงพยาบาลอีก จ่ายเงินรับยาเสร็จรีบกลับบ้าน หมอนัดดูแผลอีกสองวันถัดมา
หลุนกลับถึงบ้านก็ให้กินข้าวเสร็จแล้วก็ป๊อกหลับทันที สักสองทุ่มตื่นมาขอน้ำซุปรอบดึกกินเสร็จก็นอนยาว ตื่นเช้ามาอีกวันดูสดใสมาก ไม่มีอการปวดใดๆ หมอนัดอีกทีวันที่ 24 มิถุนายน เพื่อดูอาการ
หลุนหลุนหลังผ่าตัดวันแรกที่กลับถึงบ้าน
24 มิถุนา แผลผ่าตัดโอเคทุกอย่าง หลุนฟื้นตัวดีไวมากจนหมอแทบไม่เชื่อว่าเพิ่งผ่าตัดมา หมอเล่าว่าวันที่อยู่ห้อง CCU หมอประจำห้องส่งคลิปหลุนโวยวายวิ่งไปวิ่งมาให้หมอดูเพื่อยืนยันว่าหลุนไม่สามารถอยู่ห้อง CCU ได้ หมอดูแล้วตกใจมากไม่อยากเชื่อว่านางจะเรี่ยวแรงเยอะขนาดนี้ทั้งๆที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดที่วางยาสลบนาน 3-4 ชั่วโมง หมอว่าหลุนเป็นตัวแรกที่หมอห้อง CCU ต้องส่งกลับบ้าน คือตอนนี้ทุกคนในตึกรู้จักหลุนกันหมดแล้วเนื่องจากวีรกรรมของนาง ^^'
อยากเห็นคลิปที่เค้าถ่ายหลุนไว้เหมือนกันแต่ไม่กล้าขอหมอดู วันที่ 30 มิถุนาหมอนัดตัดไหม ถ้าไม่มีอาการอะไรเพิ่มเติมก็เป็นอันว่าจบการรักษาที่ยาวนานกว่าสองเดือน
สรุปค่ารักษาพยาบาลจนถึงวันนี้ 26, 881 บาท
แบ่งเป็น
ค่า MRI 9,900 บาท
ค่าผ่าตัด 7,939 บาท
ที่เหลือคือค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งที่พาหลุนไปหาหมอ ครั้งละพันกว่าบ้างไม่ถึงพันบ้าง เดี๋ยวต้องพาไปตัดไหมและคงมีการรักษาต่อเนื่องอีกครั้งสองครั้งซึ่งคิดว่าเบ็ดเสร็จค่ารักษาครั้งนี้ก็คงราวสามหมื่นบาทโดยประมาณ
หลุนหลุนกับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 3
3 พฤษภา หมอนัด มาถึงก็เจาะเลือดตรวจอาการพยาธิในเม็ดเลือด หมอแจ้งว่าเกล็ดเลือดดีขึ้นมากแต่ยังไม่ปกติ อย่างอื่นก็โอเค ยังต้องทานยาพยาธิในเม็ดเลือดต่อ หมอจัดตารางยาเพื่อค่อยๆลดสเตียรอยด์ลงที่่ผ่านมาหลุนได้เต็มโด๊ซมาตลอดซึ่งอันตรายต่อตับ ตอนนี้ค่าตับค่อนข้างสูง หมอจ่ายยาบำรุงตับเพิ่ม
4-18 พฤษภา หลุนปกติดีไม่มีอาการ
19 พฤษภา หยุดสเตียรอยด์วันแรก ตอนเย็นดูมีอาการเล็กน้อย แต่ยังอยากเล่นและไม่มีอาการซึม
20-23 พฤษภา หลุนอาการแย่ลง ตั้งแต่หยุดสเตียรอยด์มีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ
24 พฤษภา หมอนัด สรุปว่าลดสเตียรอยด์แล้วอาการกลับมา ปรึกษากับหมอและตกลงกันว่าคงต้องทำ MRI แล้ว หมอคิดว่าน่าจะมีการกดทับเส้นประสาทที่มากทำให้อาการอักเสบไม่สามารถหายได้เองทันทีที่หยุดยาอาการก็กลับมา ยาแก้ปวดปกติก็เอาไม่อยู่ต้องสเตียรอยด์เท่านั้น ตกลงกันว่าหมอนัดวันที่ 26 พฤษภามา x-ray ปอด ตรวจคลื่นหัวใจเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการวางยาสลบเพื่อทำ MRI หมอฉีดยาแก้ปวด แก้อักเสบให้อย่างละเข็มและให้กลับไปให้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซเหมือนเดิมเพื่อให้หลุนกลับมาเฟรชที่สุดและพร้อมสำหรับการวางยา
26 พฤษภา หมอส่งตรวจคลื่นหัวใจ x-ray ช่องอก ผลออกมาปกติดี พร้อมสำหร้บการทำ MRI วันที่ 31 พฤษภา
27-30 พฤษภา หลุนมีอาการน้อยลงเริ่มร่าเริงขึ้นหลังได้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซ
31 พฤษภา ทำ MRI ผลออกมาคือมีหมอนรองกระดูกที่คอข้อหนึ่งหลุดเข้าไปกดทับไขสันหลัง ภาพถ่ายด้านบนเห็นชัดว่ามีการอักเสบและไปบล๊อคไม่ให้น้ำไขสันหลังเดิน น้ำไขสันหลังขาดไปช่วงหนึ่งเลย แต่หมอตั้งข้อสังเกตุว่า ระยะที่หมอนรองเข้าไปกดทับมันไม่มากไม่น่าจะถึงกับต้องผ่าตัด หมอดูไม่แน่ใจเลยปรึกษากันว่าจะลองรักษาด้วยยาไปอีกระยะนึงก่อนมั้ยเผื่อว่าหลุนจะหายได้เอง แต่ระหว่างนี้หมอจะหาคิวผ่าตัดรอไว้ให้เลย ฟังดูแล้วก็โอเค เพราะตอนนี้ดูแล้วก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน หมอจัดยาให้เต็มโด๊ซ 1 อาทิตย์และอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยๆลดยาลงเพื่อดูหลุนอีกครั้งว่าจะหายเองได้หรือไม่ หมอนัดอีก 2 อาทิตย์ถัดไป ระหว่างนี้หมอให้สเตียรอยด์เผื่อไว้ให้เราสามารถปรับเพิ่มโด๊ซได้เองหากหลุนมีอาการก็ไม่ต้องรอให้ทรุดมาก หมอนัดอีกที 21 มิถุนา เพื่อดูอาการ 22 มิถุนา เป็นว้ันที่หมอนัดผ่าตัดไว้ให้แล้ว ถ้า 21 หลุนหายได้เอง 22 ก็ไม่ต้องผ่า ตกลงกันตามนี้
1-7 มิถุนายน หลุนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ สดใสร่าเริงบ้ากิน แต่ดูจะมีอาการถ่ายเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มสงสัยสเตียรอยด์จะไปกดภูมิฯ ทำให้มีอาการท้องเสียร่วม แต่โดยรวมไม่มีอาการอ่อนเพลียใดๆ
8-14 มิถุนายน เริ่มลดเสตียรอยด์เหลือวันละเม็ด ก็ยังดูปกติดี ขับถ่ายปกติสลับกับเหลว
15 มิถุนายน งดสเตียรอยด์วันแรก ก็ยังดูปกติอยู่ ช่วงนี้ตารางคือให้สเตียรอยด์วันเว้นวัน
16-18 มิถุนายน เริ่มมีอาการกลับมาอีกครั้ง สรุปได้เลยว่าหลุนไม่หายเอง ขาดยาไม่ได้เลยต้องปรับโด๊ซยากลับมาเต็มอีกครั้งเพื่อให้หลุนเฟรชที่สุดสำหรับการผ่าตัดวันที่ 22 มิถุนายน
21 มิถุนายน หมอนัด เตรียมความพร้อม เจาะเลือดตรวจ หมอแจ้งว่าหลุนพร้อมมากทั้งค่าเลือดค่าตับค่าไต หมอชมว่าค่าตับไม่ขึ้นเลยไม่น่าเชื่อเพราะว่าให้สเตียรอยด์เต็มโด๊ซ เรายิ้มๆไม่ได้บอกหมอว่าแอบบำรุงตับหลุนด้วยอาหาร ไม่ได้พึ่งยาอย่างเดียว
22 มิถุนายน คิวผ่าตัดเช้า 8:30 หลุนเข้าห้องผ่าตอนเกือบ 9 โมงเช้า ออกมาอีกทีคือเที่ยงเกือบบ่าย นางนอนสลึมสลือมึนยาสลบอยู่ในห้องพักฟื้น หมอแจ้งว่าผ่าเข้าไปเจอหมอนรองกระดูกแตกและมีเศษๆเข้าไปกดทับเส้นประสาทหลายชิ้น และหลุนต้อง admit เพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลหนึ่งคืน เพราะเป็นการผ่าตัดกระดูกคอซึ่งมีเส้นประสาทเยอะมาก อาจต้องให้มอร์ฟีน หรือเผื่อฉุกเฉินใดๆจะได้ใกล้มือหมอ เรากังวลใจเล็กน้อยค่าที่หลุนไม่เคยนอนที่อื่นโดยไม่มีเราอยู่ด้วยมันจะยอมมั้ย แต่ก็คิดว่านางน่าจะปวดแผลและมึนยาสลบไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงโวยวายอะไร อีกอย่างก็แค่คืนเดียวใกล้หมอไว้ก็ดี บ่ายโมงขึ้นไปทำเรื่อง admit กว่าจะได้กลับบ้านก็บ่ายสอง แวะกินข้าวกลางวันก่อน พอถึงบ้านนั่งยังไม่ทันหายเมื่อยมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เป็นหมอประจำบ้านที่ต้องดูแลหลุนระหว่าง admit โทรมาด้วยน้ำเสียงบ๊งเบ๊ง บอกว่าหลุนร้องตลอดเวลา นางปีนกรงไม่ยอมนอน กัดสายน้ำเกลือขาด โวยวายจะออกมานอกกรง พอให้ออกมานางก็วิ่งไปทั่ว ร้องโวยวาย จนหมอบอกว่าขืนเป็นงี้ไปเรื่อยๆคงไม่เรียกว่าการพักฟื้นเพิ่งผ่ากระดูกคอมาแล้วมาปีนกรงแบบนี้หมอไม่โอเค เจ้าของควรมาเอาไปดูแลเอง เราก็งงๆ ไหนว่าต้องอยู่ใกล้หมอ แล้วน้ำเกลือกะมอร์ฟีนไม่ต้องให้แล้วหรือ สรุปคือหมอบอกว่าเอาไปดูเองได้แต่ต้องจำกัดบริเวณอย่าให้เดินมาก อย่าให้กระโดด ถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็รีบพามา น้ำเกลือไม่ต้องให้ ให้กินอาหารปกติได้เลย เรารีบขับรถกลับไปที่เกษตรเพื่อรับหลุน ระหว่างรอรับหลุนเกือบมีดราม่า เนื่องจากเห็นเจ้าหน้าที่ห้อง CCU ตีหมาในกรงหนึ่งที่ร้องโวยวาย พยายามมองแต่ไม่เห็นว่าเป็นหลุนรึเปล่าที่โดนตี รู้สึกร้อนรนกังวลใจมากแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรออกไปเพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นว่าใช่สิ่งที่คิดรึเปล่า ได้แต่แผ่เมตตาและขอให้ได้หลุนคืนไวๆ ระหว่างยืนรออยู่ด้านนอกได้ยินเสียงนางร้องโวยวายตลอดเวลา เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมาร้องขนาดนี้กลัวว่าจะกระทบกับแผลผ่าตัด กว่าจะได้หลุนคืนก็พักใหญ่ ระหว่างรอจ่ายเงินค่ายาที่ชั้นล่างวิ่งไปซื้อไส้กรอกบุชเชอร์ให้หลุนกินประทังไปก่อนเพราะรู้ว่านางหิวแน่ๆ อดข้าวอดน้ำตั้งแต่เมื่อวานเพื่อการผ่าตัดจนบ่ายสามวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยน้ำเกลือก็ไม่ได้เพราะดันไปกัดสายน้ำเกลือขาดหมด หลุนกินไส้กรอกด้วยความหิวโหย มีร้องครวญครางบ้างเหมือนเด็กสะอึกสะอื้นและดูวิตกกังวลทุกครั้งที่เราหรืออรุษลุกเดินออกห่างจากตัว คงกลัวโดนทิ้งไว้โรงพยาบาลอีก จ่ายเงินรับยาเสร็จรีบกลับบ้าน หมอนัดดูแผลอีกสองวันถัดมา
หลุนกลับถึงบ้านก็ให้กินข้าวเสร็จแล้วก็ป๊อกหลับทันที สักสองทุ่มตื่นมาขอน้ำซุปรอบดึกกินเสร็จก็นอนยาว ตื่นเช้ามาอีกวันดูสดใสมาก ไม่มีอการปวดใดๆ หมอนัดอีกทีวันที่ 24 มิถุนายน เพื่อดูอาการ
24 มิถุนา แผลผ่าตัดโอเคทุกอย่าง หลุนฟื้นตัวดีไวมากจนหมอแทบไม่เชื่อว่าเพิ่งผ่าตัดมา หมอเล่าว่าวันที่อยู่ห้อง CCU หมอประจำห้องส่งคลิปหลุนโวยวายวิ่งไปวิ่งมาให้หมอดูเพื่อยืนยันว่าหลุนไม่สามารถอยู่ห้อง CCU ได้ หมอดูแล้วตกใจมากไม่อยากเชื่อว่านางจะเรี่ยวแรงเยอะขนาดนี้ทั้งๆที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดที่วางยาสลบนาน 3-4 ชั่วโมง หมอว่าหลุนเป็นตัวแรกที่หมอห้อง CCU ต้องส่งกลับบ้าน คือตอนนี้ทุกคนในตึกรู้จักหลุนกันหมดแล้วเนื่องจากวีรกรรมของนาง ^^'
อยากเห็นคลิปที่เค้าถ่ายหลุนไว้เหมือนกันแต่ไม่กล้าขอหมอดู วันที่ 30 มิถุนาหมอนัดตัดไหม ถ้าไม่มีอาการอะไรเพิ่มเติมก็เป็นอันว่าจบการรักษาที่ยาวนานกว่าสองเดือน
สรุปค่ารักษาพยาบาลจนถึงวันนี้ 26, 881 บาท
แบ่งเป็น
ค่า MRI 9,900 บาท
ค่าผ่าตัด 7,939 บาท
ที่เหลือคือค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งที่พาหลุนไปหาหมอ ครั้งละพันกว่าบ้างไม่ถึงพันบ้าง เดี๋ยวต้องพาไปตัดไหมและคงมีการรักษาต่อเนื่องอีกครั้งสองครั้งซึ่งคิดว่าเบ็ดเสร็จค่ารักษาครั้งนี้ก็คงราวสามหมื่นบาทโดยประมาณ
หลุนหลุนกับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 3
