หลุนหลุน กับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 1



เนื่อง จากประมาณกลางเดือนเมษาที่ผ่านมาหลุนหลุนกับซันช่ายวิ่งเบียดแข่งกันลงทาง ลาดหน้าบ้าน หลุนโดนช่ายเบียดล้มหน้าคะมำ ขาหน้าลู่ไปด้านหลังลักษณะเอาคอและคางกระแทกพื้นเสียงดังพลั่ก ตอนนั้นเราก็ตกใจแต่เห็นนางลุกขึ้นมายืนงงๆ แล้วเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสองสามวันผ่านไปเริ่มสังเกตุเห็นอาการยืนหอบคอตกไม่เงยหน้า ไม่สามารถเอีี้ยวคอซ้ายขวาได้ เดินช้าเหมือนแทบจะเดินไม่ไหวโดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นลงทางลาดหน้าบ้าน เวลานอนจะค่อยๆนั่งก่อนแล้วเอาหัวซุกหว่างเท้าหน้าสองข้างเหมือนพยายามตั้ง คอไว้ไม่ให้เอนไปด้านใดด้านหนึ่ง
 

 
เรารีบพาหลุนมา รพส.เกษตรวันที่ 20 เมษา อายุรกรรมทั่วไป  หมอส่ง x-ray เจาะเลือดไปตรวจ ฉีดยาแก้ปวด 1 เข็ม แก้อักเสบ 1 เข็มและนัดฟังผลเลือดวันรุ่งขึ้นเนื่องจากตอนไปคลินิกพิเศษเย็นใกล้ปิดแล้ว จึงกลับบ้านโดยไม่มียา.


21 เมษา มาฟังผลเลือดและรับยา เนื่องจากเราเข้า OPD (อายุรกรรมทั่วไป) ไม่ได้ประจำหมอคนไหน หมอจึง random ไปเรื่อยๆ  เจอหมออีกคน หมอนั่งอ่านประวัติ ให้เอาหลุนขึ้นโต๊ะ หมอแจ้งว่าเกล็ดเลือดต่ำ อาจเป็นพยาธิในเม็ดเลือดต้องรักษาเรื่องพยาธิในเม็ดเลือดไปด้วย  ส่วนอาการปวดคอหมอบอกว่าจากประวัติการรักษาว่าหลุนเคยมีอาการปวดคล้ายๆแบบนี้มาก่อน อาจเป็นโรคประจำสายพันธ์ ( Beagle pain syndrome) หรือน่าจะเป็นเกี่ยวกับข้อเสื่อม  หมอจะให้ทำ MRI เพื่อดู คือเท่าที่ฟังหมอจะไม่รักษาอะไรตอนนี้จนกว่าจะทำ MRI เราฟังแล้วไม่โอเค รู้สึกว่าก่อนหมอจะแนะนำให้คนไข้เสียเงินมากๆในการรักษา (ค่าทำ MRI 8,000-10,000+) น่าจะโฟกัสที่อาการปัจจุบันแล้วลองทำการรักษาดูก่อน เราบอกหมอหลายครั้งว่าหมาล้มคอกระแทก แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล หมอไม่สนใจอาการปัจจุบันเลย ไม่แม้แต่จะจับตัวหลุนเพื่อตรวจอาการ  เราซักถามเรื่องแนวทางการรักษาไปหลายข้อรวมถึงความจำเป็นที่จะต้อง MRI จนรู้สึกได้ว่าหมอไม่พอใจ เริ่มตอบบ้างไม่ตอบบ้างและอยากจบการสนทนากับเราเร็วๆ เราแค่รู้สึกว่าตามประวัติหลุนที่มารักษาครั้งล่าสุดที่นี่ก็หลายปีแล้ว ถ้ามันเป็นข้อเสื่อมจริงก็ไม่น่าหายดีมาจนเพิ่งมาเป็นเอาวันนี้ หมอเขียนใบนัดให้เรามาอีกทีวันที่ 3 พฤษภา เพื่อมาตรวจเลือดเรื่องพยาธิในเม็ดเลือด ฉีดยาแก้ปวดให้หนึ่งเข็ม ไม่มียาแก้อักเสบ ให้แต่ยาแก้ปวดธรรมดา ยารักษาพยาธิในเม็ดเลือด ยาเกี่ยวกับเส้นประสาท ดูจากยาที่ให้แล้วเรารู้สึกว่าหมอรักษาส่งๆพอให้พ้นตัวไปก่อนเท่านั้น ด้วยความไม่แน่ใจและเราไม่สามารถทำอะไรได้จึงจำต้องรับยากลับมา 
 

24 เมษา ทานยามาสองวันอาการหลุนไม่ดีขึ้น เราพากลับมา รพส.เกษตรอีกครั้งอายุรกรรมเหมือนเดิม เจอหมออีกคน หมอจับตรวจคอพบอาการปวดเกร็งอย่างมาก ได้อธิบายและปรึกษาหมออีกหลายอย่างพร้อมทั้งเอายาที่ได้รับคราวที่แล้วมาให้หมอดู หมอบอกว่ายาที่ได้ไปมันไม่ค่อยตรงจุด มันเป็นยารักษาเกี่ยวกับข้อกระดูกไม่ได้พุ่งเป้ารักษาอาการอักเสบจากบาดเจ็บ หมอฉีดยาแก้ปวด 1 เข็ม แก้อักเสบ 1 เข็ม และเพิ่ม prednisolone(สเตียรอยด์) กับยาคลายกล้ามเนื้อให้เพราะหลุนปวดมาก หมอออกใบนัดให้มาพบหมอที่เชี่ยวชาญระบบประสาทชื่อคุณหมอกนกวรรณซึ่งจะลง OPD เฉพาะวันอังคารกับวันพฤหัสบดี ...หมอนัดวันที่ 28 เมษา
หลังจากได้สเตียรอยด์หลุนดีขึ้นมาก แทบจะไม่เห็นอาการปวดอีกเลย มีอาการบ้างเล็กๆน้อยๆ เวลาก้มกินอาหาร เลยหาตั่งเตี้ยๆมาวางชามข้าวให้อยู่ในระดับที่ไม่ต้องก้มมาก และพยายามปรุงอาหารนิ่มๆให้กิน อาการหลุนดีขึ้นมาก 





หลุนหลุนรอหมอในรถเข็นบ้านที่อรุษต่อให้เพื่อสะดวกในการมาโรงพยาบาล ^^

28 เมษา 7 โมงเช้าไปรพส.เกษตรพบหมอระบบประสาทตามนัด ได้เรียกคิวตรวจประมาณสิบโมงกว่าคิวคุณหมอยาวพอควรเท่าที่สังเกตุหมาที่มารอหน้าห้องหมอมีอาการเกี่ยวกับข้อกระดูก ข้อสะโพกเสื่อมบางตัวเจ็บปวดมากจนแทบเดินไม่ได้ ส่วนใหญ่นั่งรถเข็นกันแทบทุกตัว ซึ่งหมอที่นัดให้เราบอกข้อมูลคร่าวๆแล้วว่าอาจต้องรอนานหน่อยเพราะคุณหมอคิวเยอะและใช้เวลาตรวจนานเพราะจะตรวจละเอียดมาก  

คุณหมอกนกวรรณตรวจการตอบสนองในเรื่องของระบบประสาท ดูการเดิน การยืน จับเท้าบิดกลับไปด้านหลัง จับคอบิดไปมาพบว่าหลุนยังมีอาการตอบสนองเรื่องการใช้ขาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างปกติเพียงเคลื่อนไหวช้าลง คอด้านขวามีอาการปวดเกร็งบิดหรือเอี้ยวลำบาก  เวลายืนมีอาการยกขาขวาขึ้นข้างเดียวบ่อยๆน่าจะสัมพันธ์กับการเจ็บคอด้านขวา แสดงว่ามีอาการเรื่องระบบประสาทบ้าง หมอบอกว่าตอนนี้หลุนอยู่ใน state1 ของความเป็นไปได้ที่จะก้าวไปสู่การเป็นอัมพาต  state1 คือเดินได้ขยับขาได้เกือบปกติแต่มีอาการเจ็บปวด ยังไม่ถึงขั้นขาอ่อนแรงหรือเดินไม่ได้  เท่าที่ดูจากฟิล์ม x-ray ไม่เห็นการแตกหักของกระดูกคอหรือส่วนอื่นๆ แต่เห็นช่องว่างระหว่างกระดูกที่น้อยมากในบางจุด ฟิล์ม x-ray ไม่สามารถบอกอะไรได้มากเพราะจะเห็นเฉพาะวัตถุที่ทืบแสงเท่านั้นไม่เห็นพยาธิสภาพของหมอนรองฯได้

ตอนนี้หมอพุ่งเป้าไปที่การรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการล้มไปก่อนว่าอาจเกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อคอหรือเส้นเอ็นเนื่องจากระทบกระแทก หรืออาจเป็นหมอนรองฯปลิ้นเข้าไปกดทับเส้นประสาทบางจุด ซึ่งจะรู้ได้จริงๆต้อง MRI  ถ้าปลิ้นเข้าไปกดทับไม่มากก็รักษาด้วยยาและกายภาพบำบัดได้ แต่ถ้ามีการแตกมีเศษกระดูกเข้าไปกดทับไขประสาทก็ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งกดทับออก  ซึ่งตอนนี้หลุนยังผ่าตัดไม่ได้เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำจากโรคพยาธิในเม็ดเลือดต้องรักษาเรื่องนี้จนหายเป็นปกติก่อนซึ่งอาจใช้เวลาเป็นเดือน เพราะฉนั้นหมอสรุปว่า คงต้องให้ทานสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการอักเสบที่คอไปก่อนเผื่อว่าหายเองได้ หรือถ้าไม่ได้ยังไงก็ต้องรอให้เคลียร์จากพยาธิเม็ดเลือดก่อนจึงจะดำเนินการต่ออย่างอื่นต่อไป 

สอบถามหมอเพิ่มเติมว่า อะไรเป็นเกณฑ์ที่เราจะรู้ได้ว่าเราควรทำ MRI ในการรักษา?  เราเป็นห่วงเพราะหมาอายุเยอะแล้ว(11 ขวบ) การวางยาสลบถือเป็นเรื่องเสี่ยง หมออธิบายว่าโดยปกติแล้ว state ของการอักเสบที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ x-rayแล้วไม่ได้มีกระดูกหัก เมื่อได้รับยาและการรักษา ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 3-4 อาทิตย์ที่จะฟื้นตัวและค่อยๆหายเป็นปกติ แต่ถ้าไม่หาย หรืองดยาแล้วกลับมามีอาการอย่างนี้เป็นไปได้ว่ามีการไปกดทับเส้นประสาทที่ีไม่สามารถหายเองได้ ก็ต้องพิจารณา MRI เพื่อผ่าตัด ยาเป็นแค่ลดการเจ็บปวดจากการอักเสบไม่สามารถไปทำให้หมอนรองหดกลับเข้าไปไม่กดทับเส้นประสาทได้ จะทำให้หายมันต้องผ่าตัดออก การทำ MRI จะทำให้เห็นสภาพของหมอนรองกระดูกและไขสันหลังว่าถูกเบียดหรือกดทับที่ข้อไหน ทำให้เรารู้จุดที่เกิดการกดทับนำมาสู่การผ่าตัดที่ตรงจุดเพราะข้อกระดูกมีหลายข้อหมอไม่สามารถผ่าเปิดทุกข้อเพื่อดูได้  


ฟังหมอแล้วก็รู้สึกว่าแนวทางการรักษาดูสมเหตุสมผลมากขึ้น อย่างน้อยหมอไม่ได้ด่วนสรุปและให้ความสำคัญเรื่องอาการปัจจุบันมากกว่าการเอาข้อมูลเก่ามาโยงแล้วสั่งทำนู่นทำนี่  หลุนแก่แล้วเราเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าสัตว์หรือคนการถูกวางยาสลบทุกครั้งจะทำให้ภูมิฯลดลงเรื่อยๆ ทำให้อ่อนแอ ร่างกายฟื้นตัวได้ช้าและอาจมีภาวะโรคแทรกซ้อนอื่นๆ  เพราะฉนั้นสำหรับคนแก่หรือหมาแก่การผ่าตัดควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ

หมอบอกว่าช่วงนี้ให้รักษาอาการปัจุบันด้วยยาไปก่อนเพื่อดูว่าดีขึ้นมั้ย โรคเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกปลิ้นหรือกดทับไม่ได้จบที่การต้องผ่าตัดเสมอไป ในกรณีเป็นไม่มากใช้การกินยา+กายภาพบำบัดก็สามารถหายได้ แม้หมอนรองฯแตก ถ้าไม่มีชิ้นส่วนแตกไปกดทับก็ไม่ต้องผ่า เพราะโดยธรรมชาติร่างกายของคนหรือสัตว์จะมีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองด้วยการสร้างพังผืดขึ้นมารองรับอยู่แล้วเพียงแต่ต้องใช้เวลาและคนไข้ต้องทำกายภาพและดูแลรักษาตัวเองไม่ให้ไปซ้ำอาการ หรือยกของหนักอะไรแบบนั้น  

ตอนนี้สิ่งสำคัญคือที่ต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับการกินยาคือเจ้าของต้องดูแลใกล้ชิด จำกัดบริเวณและอย่าให้น้ำหนักขึ้นซึ่งสำคัญมากเพราะสเตียรอยด์มีผลกระตุ้นความอยากกินอาหาร ถ้าปล่อยให้กินน้ำหนักจะเพิ่มยิ่งไปซ้ำเติมอาการ พยายามอย่าให้ก้มหรือเงยหน้ามาก ถ้าเป็นไปได้ให้จัดวางชามข้าวในตำแหน่งที่เขาไม่ต้องก้มหรือเงย หรือจะค่อยๆหยิบใส่มือป้อนก็ได้อย่าให้ตื่นเต้นมาก(หลุนมีอาการตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อถึงมื้ออาหาร) เพราะจะทำให้ให้เกร็งกล้ามเนื้อและไปซ้ำเติมอาการ หากต้องขึ้นลงบันไดหรือทางลาดเจ้าของต้องอุ้มห้ามให้เดินเอง ห้ามทานอาหารที่ต้องเคี้ยวมากหรืออาหารแข็ง อย่าให้อยู่ในที่อากาศร้อนเพราะการหอบหายใจแรงๆ จะซ้ำเติมอาการที่คอ ควรให้อยู่ในที่เย็นเช่นห้องแอร์ตลอดเวลา พูดง่ายๆ ช่วงนี้เลี้ยงแบบ 'เจ้าหญิง' หมอกล่าวสรุป.

หลุนหลุนกับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอแตก 2 


บทความที่ได้รับความนิยม